จากกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามเข้าตรวจสอบคนสนิทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวิหารมรณภาพจนทราบว่า ลูกศิษย์คนสนิทที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต มีการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต ในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศฯ และวัดสาขา ตามที่คณะกรรมการวัดได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับจึงติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อวันที่ 23-25 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง และข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม
นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol เกี่ยวกับประเด็นยักยอกทรัพย์วัดบวรนิเวศวิหาร 200 ล้านว่า
1.เมื่อวานนี้ สื่อมวลชนรายงานข่าวใหญ่ที่ทำให้ตกตะลึงกัน นั่นคือ ข่าวการที่ตำรวจและ ปปง. เข้าทำการจับกุมและยึดทรัพย์ลูกศิษย์ของสมเด็จพระวันรัต วัดบวรในข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นจำนวนมากถึง 200 ล้านบาท
ข่าวดังกล่าวนี้อาจทำให้กระทบต่อเกียรติคุณและความบริสุทธิ์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต และอาจกระทบชื่อเสียงของวัดบวรด้วย! ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องนี้
2.ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า จำนวนเงินที่มีการยักยอกรวมถึงทรัพย์สินหลายรายการนั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าประคุณสมเด็จ แต่เป็นทรัพย์สินของวัดที่อยู่ในความดูแลของเจ้าพระคุณสมเด็จ
ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เจ้าพระคุณสมเด็จไม่ได้มีทรัพย์สินส่วนตัวดังที่เป็นข่าว
3.เจ้าประคุณสมเด็จเป็นพระมหาเถระที่เคร่งในพระวินัย ไม่จับตัองเงินทอง เงินทองทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของไวยาวัจกร ที่เจ้าประคุณสมเด็จมอบหมายซึ่งเป็นไปตามพระวินัย
ดังนั้น บรรดาทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจึงอยู่ในความครอบครองดูแลจัดการของไวยาวัจกรซึ่งก็คือ ผู้ต้องหาในคดีนี้จึงควรเข้าใจในขั้นนี้ว่า ทรัพย์สินที่มีการกล่าวหาว่า ยักยอกนั้น เป็นเรื่องที่ลูกศิษย์ซึ่งเป็นไวยาวัจกรเป็นผู้ครอบครองดูแลและจัดการ! การจัดการผิดถูกเป็นเรื่องความรับผิดชอบของไวยาวัจกรนั้น!
4.จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมด เป็นเรื่องเงินในการก่อสร้างศาสนสถานสำคัญแห่งหนึ่งซึ่งประคุณสมเด็จได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ทำการก่อสร้าง เพื่อประโยชน์ในพระพุทธศาสนาการก่อสร้างนี้มีวงเงินประมาณ 80 ล้านบาท และเงินดังกล่าวก็อยู่ในความดูแลจัดการของไวยาวัจกร ซึ่งมีหน้าที่จัดการให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการก่อสร้างให้สำเร็จลุล่วง
5.นอกจากเงิน 80,000,000 บาท ดังกล่าวแล้วยังมีวงเงินอีก 2-3 ยอด ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบูรณะก่อสร้างและค่าใช้จ่ายในกิจการของวัด และอยู่ในหน้าที่ดูแลรับผิดชอบของเจ้าพระคุณสมเด็จซึ่งเป็นหน้าที่ของไวยาวัจกรในการครอบครองดูแลรักษาและจัดการให้เป็นไปโดยถูกต้อง
6.ดังนั้น ถ้าเงินและทรัพย์สินดังกล่าวถูกจัดการไปโดยไม่ถูกต้องมีการนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตนก็ดี เสียหายประการใดๆก็ดี เป็นความรับผิดชอบของไวยาวัจกรซึ่งอาจต้องรับผิดทางอาญาและทางแพ่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าพนักงานตำรวจกองปราบฯ และ ปปง. กำลังดำเนินการและชำระสะสางเรื่องนี้ให้ถูกต้อง
7.ในเบื้องต้นนี้กล่าวได้ว่า วัดบวรก็ดี เจ้าประคุณสมเด็จก็ดี ไม่ได้ทำสิ่งใดผิดหรือเสียหาย กรณีเป็นเรื่องของไวยาวัจกรโดยเฉพาะซึ่งเชื่อว่า เจ้าพนักงานตำรวจและ ปปง.จะสามารถสะสางเรื่องนี้ได้อย่างหมดจดงดงาม เพราะชื่อเสียงเกียรติคุณของวัดบวร และเจ้าประคุณสมเด็จนั้นเป็นเรื่องสำคัญ คาดว่า เรื่องนี้จะเสร็จสิ้นในไม่ช้า
8.ข้อเท็จจริงที่ยังไม่ชัดเจนก็คือ ไวยาวัจกรได้ทำบัญชีรับจ่าย เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดตามหน้าที่ที่ต้องทำหรือไม่ และถ้าทำแล้วก็ยังต้องตรวจสอบดูว่าที่ทำนั้นถูกต้องกับความเป็นจริงหรือไม่ซึ่งไม่นานก็คงทราบ
ดังนั้น สาธุชนทั้งหลายจึงพึงเข้าใจเรื่องนี้โดยนัยยะที่กล่าวมานี้เถิด