ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) ว่า ตามที่บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร โดยการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ของ SCBX แก่ผู้ถือหุ้นของธนาคาร เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับหลักทรัพย์ของธนาคารใน อัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญของธนาคาร ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของธนาคาร ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX
โดย SCBX ได้กำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. ของทุกวันทำการ รวมทั้งสิ้น 30 วันทำการ โดยเป็นระยะเวลารับซื้อสุดท้าย
SCBX ได้ดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นของธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2565 รวม เป็นระยะเวลา 25 วันทำการแล้ว ดังนั้น ธนาคารขอแจ้งเตือนผู้ถือหุ้นและผู้ที่ประสงค์จะซื้อหุ้นของธนาคารเพื่อแลกหุ้นในขั้นตอนการตอบรับคำเสนอซื้อ ดังนี้
1. วันสุดท้ายของการยื่นแบบตอบรับการทำคำเสนอซื้อ พร้อมเอกสารประกอบให้กับตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ คือ วันจันทร์ที่ 18 เมษายน 2565 ก่อนเวลา 16.00 น. โดยตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด
2. เนื่องจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) มีขั้นตอนการชำระราคาและส่งมอบหุ้นในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันซื้อขาย หรือ T+2 ดังนั้น วันทำการสุดท้ายที่นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นของธนาคาร เพื่อนำมาตอบรับคำเสนอซื้อได้ คือ วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565
โดยภายหลังวันที่11 เมษายน 2565 นักลงทุนสามารถเข้าซื้อหลักทรัพย์ของธนาคารได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถนำหลักทรัพย์มาตอบรับคำเสนอซื้อได้ ซึ่งภายหลังจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของธนาคารแล้วเสร็จและเมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาตให้หุ้นสามัญของ SCBXเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน หุ้นของ SCBXจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกับวันที่หุ้นของธนาคารจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
คลิกอ่านเพิ่ม : 10 เรื่องต้องรู้ ก่อนการแลกหุ้น SCB เป็น SCBX
ดังนั้น ผู้ถือหุ้นของธนาคาร ที่ไม่ตอบรับคำเสนอซื้อจะได้รับผลกระทบดังนี้
หุ้นของธนาคาร จะพ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และจะไม่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือตลาดรองอื่น ๆ
ดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX และธุรกิจใหม่ในอนาคต ผู้ถือหุ้นที่ไม่ตอบรับคำเสนอซื้อ จะไม่มีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX และธุรกิจใหม่ที่ SCBX จะมีการลงทุน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงและมีศักยภาพที่จะสามารถจดทะเบียนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตได้
หลังจากหุ้นของธนาคารพ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรจากการซื้อขายหุ้น (Capital gain tax) นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นของธนาคาร ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจะต้องเสียอากรแสตมป์ ในการโอนหุ้นสามัญของธนาคาร ในกรณีที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์
นโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคาร ภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากธนาคารจะอยู่ภายใต้ SCBX ดังนั้นนโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคารจะต้องขึ้นอยู่กับแผนธุรกิจในอนาคตและความเหมาะสมโดยรวมเพื่อพิจารณาฐานะทางการเงินของ SCBX
เนื่องจากหุ้นของธนาคารจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ถือหุ้นของธนาคารจะมีข้อจำกัดในการได้รับข่าวสารจากธนาคาร
ในกรณีของผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นของธนาคารในรูปแบบใบหุ้น (Scrip) ผู้ถือหุ้นสามารถส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ทุกราย ยกเว้นบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (สำหรับผู้แสดงเจตนาทั้งประเภทบุคคลและนิติบุคคล) และที่สาขาของธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ (เฉพาะผู้แสดงเจตนาประเภทบุคคล)
สำหรับกรณีของผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นของธนาคารในรูปแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ผู้ถือหุ้นสามารถส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้ถือหุ้นมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ โดยบริษัทหลักทรัพย์นั้นจะเป็นผู้ให้บริการรวบรวมและนำส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อดังกล่าวให้แก่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์