เปิดโผหุ้นเด่น ท่องเที่ยว- รพ.- ค้าปลีก รับเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

25 เม.ย. 2565 | 01:28 น.
อัปเดตล่าสุด :25 เม.ย. 2565 | 09:02 น.

หุ้นธีมเปิดเมืองดี๊ด๊า (กลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาล ค้าปลีก-อาหาร ) รับปัจจัยบวกหนุน นับถอยหลังไทยเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ โดยยกเลิกมาตรการTest & Go 1 พ.ค.นี้ และจ่อประกาศเป็นโรคประจำถิ่น 1 ก.ค.

นับถอยหลังไทยเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ หลังล่าสุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ได้ยกเลิกประกาศคำเตือนห้ามเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมจัดให้ไทยอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงจากโควิด-19 ในระดับ 3 จากเดิมอยู่ที่ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

 

นอกจากนี้มติศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go แก่ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่วัคซีนครบตามเกณฑ์ ไม่ต้องตรวจโควิดด้วย RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึง และปรับลดวงเงินประกันสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากไม่ต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐฯ เป็นไม่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ เริ่มวันที่ 1 พ.ค.นี้  พร้อมปรับลดโซนสี ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เตรียมประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 ก.ค.นี้ 

 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.มีมติยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบTest & Go ที่ต้องตรวจ RT-PCR โดยปรับให้ใช้เพียงการตรวจ ATK เท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเปิดรองรับการท่องเที่ยวหลังจากหลายประเทศได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ไปมากพอสมควรแล้ว เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป
 


 

สถานการณ์ดังกล่าว เป็น Sentiment บวกหนุนหุ้น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มโรงพยาบาล และ กลุ่มค้าปลีก-บริโภคได้รับอานิสงค์จากการเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด มองว่ามติ ศบค.ดังกล่าว เป็น Sentiment ที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ จากการกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุน เน้นเลือกหุ้นที่อิงต่อการฟื้นตัวต่อเศรษฐกิจในประเทศ คาดจะมีโอกาสกลับมาOutperformได้เด่นขึ้นตามลำดับ เมื่อเทียบกับในช่วงที่เจอวิกฤตโควิด

 

สำหรับหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการเปิดเมือง 3 กลุ่ม พร้อมราคาเฉลี่ยจาก IAA Consensus มีดังนี้ 
 

 

กลุ่มท่องเที่ยว  

  • บมจ.ท่าอากาศยานไทย( AOT) :  IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่  71.34 บาท
  • บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ( ERW)  :  IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 3.89 บาท 
  • บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 39.07 บาท  
  • บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 43.57  บาท 

 

กลุ่มโรงพยาบาล
 

  • บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH)  : IAAให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 168.6  บาท
  • บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 28.40 บาท 

 

กลุ่มค้าปลีกอาหาร 

  • บมจ.ซีพี ออลล์ ( CPALL)  : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 75.45 บาท
  • บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ( M ) : IAA  ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 61.67 บาท 

ด้าน บล.กสิกรไทย ประเมินหุ้นกลุ่มที่ได้กระแสบวกจากการเปิดเมือง โดยแนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้น

 

  • บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ย 10.02 บาท 
  • บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ย 61.80 บาท  
  • บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) : IAA ให้ราคาเฉลี่ยโดยเฉลี่ย 39.07 บาท  
  • บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ย  43.57 บาท 
  • บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA ) : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 24.00 บาท 

 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก จำกัด (GBS) แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ศบค. ปลดล็อคมาตรการเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 พ.ค.นี้ ซึ่งรวมทั้งเลิก ThailandPass, Test&Go  ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวมีโอกาสกลับมาคึกคักได้ ซึ่งหุ้นที่ได้อานิสงส์จากปัจจัยบวกดังกล่าวได้แก่ 

 

  • บมจ.ท่าอากาศยานไทย( AOT) :  IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่  71.34 บาท
  • บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ( ERW)  :  IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 3.89 บาท 
  • บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL)  : IAA ให้ราคาโดยเฉลี่ยที่ 43.57  บาท