หุ้นบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ซื้อขายวันแรก 27 เม.ย.65 เปิดตลาดอยู่ระดับ 120.50 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 49.50 บาท หรือ + 69.72% (จากราคา SCBB ที่ปิดล่าสุด เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ระดับ 71 บาท) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 997.34 ล้านบาท ราคาสูงสุดอยู่ระดับ 121.50 บาท และต่ำสุดที่ 119 บาท
นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย คาดว่าหุ้น บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ที่เปิดซื้อขายวันแรกคาดว่า ราคาน่าจะดีดกลับขึ้นไปก่อนที่จะประกาศสวอปหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBB) ที่ราว 100-110 บาท จากราคาปิดล่าสุด SCBB ที่ 71 บาท โดยหากราคาเปิดไม่ถึง 100 บาท เป็นโอกาสเข้าซื้อสะสม บล.กสิกรไทยให้ราคาเป้าหมาย SCB ที่ 149 บาท
"วันนี้เริ่มซื้อขายวันแรก ราคาอาจจะยังไม่กระโดด แต่จะค่อยๆเพิ่มมูลค่าหุ้นกลับขึ้นมา ซึ่งในช่วงกลางปีจะมีการประกาศแผน และมีการลงทุน การจ่ายเงินปันผลพิเศษ"นายกรกช กล่าว
บล.กสิกรไทย เลือก SCB เป็น Top Pick เนื่องจากหลังปรับโครงสร้างธุรกิจเป็นโฮลดิ้ง รวมธุรกิจแบงก์เข้าไปด้วย คาดว่าปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิอยู่ที่ 40,847 ล้านบาท เติบโต 15% YoY จากการตั้งสำรองลดลง โดยตั้งสำรองมากแล้วในปีที่แล้ว ภาพนี้จึงค่อยๆ คลายลงในปีนี้ และสินเชื่อปีนี้ประเมินเติบโต 5% หลัก ๆ จากสินเชื่อบ้านและสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซียพลัส ( ASPS) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำให้ซื้อหุ้น SCB โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 140 บาทต่อหุ้น ประเมินว่าน่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนของแผนธุรกิจภายใต้ เอสซีบี เอกซ์ ชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี
โดยเฉพาะการรุกตลาดจำนำทะเบียนรถยนต์ในนามบริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด หรือ AUTOX และการปล่อยสินเชื่อทางดิจิทัล จากการเป็นพันธมิตรกับบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท เอไอเอสซีบี จำกัด หรือ AISCB รวมถึงการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Fin Tech มากยิ่งขึ้น
จากข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ SCB ได้ร่วมกับพันธมิตรหลายราย ได้แก่ การร่วมกับบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเซีย จำกัด หรือ MGC Group ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก ยานยนต์ชั้นนำในประเทศไทย เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด มีวัตถุประสงค์หลักในการประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อ ลีสซิ่ง และให้ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (Big Bike) และยานพาหนะทางน้ำ
และได้มีการ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท มันนิกซ์ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อ Digital Lending เนื่องจากธนาคารมีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตในธุรกิจ Digital Lending ต่อไปในระยะยาว ซึ่งธนาคารถือหุ้นในสัดส่วน 60% และ Abakus Ltd. ถือหุ้น 40%
ฝ่ายวิจัย ASP ประมาณการกำไรสุทธิของ SCB ปี 2565-2566 ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% และ 4.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 9% ยังไม่ได้ รวมส่วนของธุรกิจใหม่ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2565 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ที่ทำได้ 10,192.86 ล้านบาท แต่คาดโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 8.8 พันล้านบาท เพราะ Credit Cost ลดลง และมีการตั้งสำรองล่วงหน้าในช่วงที่ผ่านมา
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย ASPS ระบุว่าหุ้นบมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCB )มีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องเป็นโฮลดิ้ง คอมปานี มีความคล่องตัวทำธุรกิจได้หลากหลาย แต่การ เข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทั้ง บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub หรือในธุรกิจอื่นๆ ก็ต้องใช้ระยะเวลากว่าจะสร้างการเติบโต ระยะสั้นอาจจะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก
"ฝ่ายวิจัย ASPS ยังคงติดตามแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของ SCB หากมีสัญญาณการเติบโตและมีกำไรที่ดี ก็พร้อมที่จะปรับเพิ่มประมาณการได้ในอนาคต
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที (KTBST)ประเมินว่า SCB เปิดเทรด 115 บาท แต่ราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนสถาบัน หรือ ต่างประเทศ ที่ขายออกไปก่อนหน้านี้เพราะกลัวเรื่องแปลงสภาพ มีโอกาสจะกลับเข้ามาซื้อ
ทั้งนี้ KTBSTให้ราคาเป้าหมายที่ 150 บาท
บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เริ่มซื้อขายวันนี้โดยกำหนด floor ไม่ต่ำกว่า 0.01 บาท และ ceiling ไม่เกิน 3 เท่าของราคาปิด SCBB (ไม่เกิน 213 บาท) ในเชิงกลยุทธ์เราคาดว่า SCB จะกลับมาซื้อขายเหนือระดับ 100 บาทแนะนำ ซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ดียังมีประเด็นเรื่องดีล Bitkub ที่ยังต้องติดตาม