อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 5 ปีครั้งใหม่ที่ 34.48 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 34.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.32 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทยังคงเผชิญแรงขาย เช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียในภาพรวมที่อ่อนลงตามค่าเงินเยนที่ร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ หลังผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) บ่งชี้สัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป สวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดแรงกดดันเงินเฟ้อสหรัฐฯ
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทย 776.44 ล้านบาท ขณะที่มี NET INFLOWS เข้าตลาดพันธบัตร 1,960 ล้านบาท (นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิพันธบัตร 2,125 ล้านบาท ขณะที่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 165 ล้านบาท)
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 28 เมษายน 2565 โดยธปท. อยู่ที่ -7.53 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -4.58 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 34.35-34.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินหยวน สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย สัญญาณฟันด์โฟลว์ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.