“อิสรภาพทางการเงิน” เป็นวิชาสำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ควรทำความเข้าใจ และเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน ถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มีอิสระอย่างใจฝัน หมดกังวลกับเรื่องเงินในอนาคต
fintips by ttb ขอแนะนำแนวคิด “บันได 4 ขั้นสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน” ฉบับมนุษย์เงินเดือน ให้พร้อมลงมือวางแผนเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ ดังนี้
1.“ฉลาดออม ฉลาดใช้” สร้างรากฐานการเงินที่ดี
ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ มั่นใจได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ทำให้ง่ายต่อการวางแผน และกำหนดสัดส่วนการเก็บออมเงินที่พอดี โดยเราสามารถเริ่มต้
1.“ฉลาดออม ฉลาดใช้” สร้างรากฐานการเงินที่ดี
ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ มั่นใจได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ทำให้ง่ายต่อการวางแผน และกำหนดสัดส่วนการเก็บออมเงินที่พอดี โดยเราสามารถเริ่มต้น
ด้วยสูตรออมเงินง่าย ๆ คือ 50:30:20 ดูก่อน ซึ่งอาจจะปรับสัดส่วนให้พอดีกับชีวิตของเราได้
จะเห็นได้ว่าสูตรออมเงิน 50:30:20 ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนแบ่งเงินไว้เพื่อการใช้จ่ายและเก็บออมได้อย่างเป็นสัดส่วน เป็นสูตรที่ไม่หย่อนและไม่ตึงจนเกินไป ที่สำคัญคือ เรายังสามารถใช้จ่ายกับสิ่งที่เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตได้ถึง 30% พร้อมกับมีเงินเก็บไว้เผื่อใช้ในอนาคตด้วย
2.“รอบรู้เรื่องกู้ยืม” ไม่ก่อหนี้เกินตัว
หากฝันอยากจะมีบ้านหรือรถเป็นของตัวเอง ชาวมนุษย์เงินเดือนสามารถทำให้เป็นจริงได้ โดยเริ่มต้นจากการตรวจเช็กไลฟ์สไตล์ของตนเอง ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของเราจากฐานเงินเดือน หนี้สินที่มีอยู่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน เพื่อที่จะหาบ้าน หรือรถที่ตอบโจทย์ชีวิต และทำให้เราผ่อนชำระได้แบบพอดี ๆ ไม่ตึงจนเกินไป
3. “ลงทุนเพื่ออนาคต” เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ
หนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมกับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามข่าวสารในตลาดคือ การลงทุนในกองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยบริหารจัดการเงินลงทุนเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ โดยเทคนิคที่จะช่วยให้การลงทุนของเติบโต ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาดคือ DCA (Dollar Cost Averaging) ซึ่งเป็นการทยอยแบ่งเงินลงทุนเป็นงวด ๆ ครั้งละเท่า ๆ กัน อย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ราคาต้นทุนแบบถัวเฉลี่ยที่ถูกลง
4.“มีความคุ้มครองอุ่นใจ” ใช้ชีวิตได้เต็มที่
การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรละเลยก็คือ เรื่องการวางแผนทางการเงิน และการวางแผนด้านสุขภาพที่ควรจะเกิดขึ้นควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันสุขภาพ ซึ่งเราสามารถทยอยซื้อเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมในแต่ละสเต็ปของชีวิต
เช่น เมื่อเจ็บป่วยระหว่างทำงาน เรามั่นใจว่ามีประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เพียงพอ หรือ เมื่อถึงวันสร้างครอบครัว เรามั่นใจว่า หากเกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องไม่คาดฝัน เรามีประกันที่ช่วยดูแลคนข้างหลังแทนเราได้ และเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ก็อุ่นใจได้ว่าหากเกิดโรคร้าย ประกันที่มีจะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลได้อย่างครอบคลุม เท่านี้ก็จะมีการเงินที่พร้อมและสามารถใช้ชีวิตที่ฝันได้อย่างเต็มที่และอุ่นใจ
การเงินที่ดีขึ้นเป็นไปได้เสมอ เพียงเริ่มต้นทีละสเต็ป ตามเป้าหมายที่วางไว้ ยิ่งทำตามเป้าหมายได้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าใกล้ชีวิตที่มีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้นเท่านั้น แนวคิดนี้เราสามารถยึดถือไว้ใช้ได้ตลอดชีวิตเลย