ทองคำนิวยอร์กปิดพุ่ง 8.4 ดอลล์ วิตกศก.โลกหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

08 มิ.ย. 2565 | 00:03 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มิ.ย. 2565 | 07:33 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (7 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันศุกร์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,852.1 ดอลลาร์/ออนซ์
         

  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 8.6 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 22.178 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17.1 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 1,012.9 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 30.70 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,965.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% สู่ระดับ 102.3080 เมื่อคืนนี้
         

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
         

นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 4.1% เนื่องจากผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ซึ่งได้ซ้ำเติมความเสียหายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน, การที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19, ภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งความเสี่ยงของการเกิดภาวะ stagflation ซึ่งเป็นภาวะเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอ่อนแอ แต่เงินเฟ้อพุ่งสูง ซึ่งเคยเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970