ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) เปิดตลาดเช้านี้ ( 14 มิ.ย.) ปรับลดลง 3.59 จุด อยู่ที่ 1,596.83 จุด ก่อนที่ล่าสุดเมื่อเวลา10.14 น. ปรับลดลง 3.63 จุด หรือ -0.23% ดัชนี 1,596.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,353.99 ล้านบาท โดยดัชนีปรับสูงสุด 1,603.87 จุด และต่ำสุด 1,596.00 จุด
ขณะที่ดัชนี SET50 ปรับลดลง 0.20% ดัชนีอยู่ที่ระดับ 966.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6,189.89 ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุด 971.06 จุด และต่ำสุดอยู่ระดับ 966.31จุด
บล.กสิกรไทย (KS) ให้กรอบดัชนีหุ้นไทยวันนี้ที่ 1575 -1585 จุด มองโดยรวมตลาดหุ้นไทยที่ปรับลงยังไม่ได้มีปัจจัยกดดันเข้ามาใหม่ กล่าวคือ
1.ความกังวลเรื่องสภาพคล่องที่จะลดลง จากการเร่งใช้นโยบายการเงินตึงตัง ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยและการลดคิวอี QE โดยเฉพาะในสหรัฐการประชมครั้งนี้วันที่ 16 มิ.ย. โดย CME Fed Watch Tool มีการปรับคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75 bps. เป็น 1.50-1.75%
โดย KS ประเมินว่า หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้น 75 bps ในรอบนี้หรือ รอบอื่นประเมิน SET Index มีโอกาสปรับฐานคาดแนวรับอยู่ที่ 1535-1550 จุด แต่หากไม่มีการขึ้น 75 bps ในรอบนี้ คาดแนวรับจะอยู่ที่ 1,585 จุด ตลาดหุ้น Rebound เป็น Mini Bear rally อีกครั้ง โดยแนวต้าน 1610 และ 1630 จุด
2.ความกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย (Recession) เริ่มกลับมาอีกครั้งหลังจากทิศทาง Bond Yields สหรัฐปรับขึ้น ล่าสุดเช้านี้ อายุ 2 ปี ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3.396% ทํา New High เทากับในปี 2007 ส่วน Bond Yields อายุ 10 ปีอยู่ที่ 3.379% ทําให้ Yield curve สหรัฐแบนราบมากขึ้น และ US 10-2 Year Treasury Yield Spread กลับมา inverse หรือติดลบอีกครั้ง
จากสถิติช่วงที่ US Yield spread เข้าใกล้ศูนย์หรือติดลบ ตลาดจะกลับมากังวลอีกครั้งว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือ Recession ในชวง่ 1-2 ปีข้างหน้า