ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,516.74 จุด ร่วงลง 876.05 จุด หรือ -2.79%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,749.63 จุด ลดลง 151.23 จุด หรือ -3.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,809.23 จุด ดิ่งลง 530.80 จุด หรือ -4.68%
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงกดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ขณะที่ดัชนี S&P500 เข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) แล้วในวันจันทร์ เนื่องจากดัชนีได้ทรุดตัวลงกว่า 20% จากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ปีนี้
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักซึ่งรวมถึงบาร์เคลย์ส และแคปิตอล อิโคโนมิกส์ ต่างก็คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%
ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ให้น้ำหนักเพียง 5%
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 5.13% โดยหุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ร่วงลง 5.48% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 7.31% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 4.31% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 4.59% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 4.6%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมต่างก็ร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ดิ่งลง 6.44% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 3.83% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 7.24% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 4.29% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 4.24%
ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น โดยหุ้นโบอิ้ง ทรุดลง 8.77% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 3.86% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ร่วงลง 4.93% หุ้นฮันนีเวลล์ ลดลง 1%
หุ้นกลุ่มสายการบินและธุรกิจเรือสำราญร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดิ่งลง 8.29% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 9.45% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทรุดลง 10.06% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 10.32% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส ร่วงลง 9.67% หุ้นนอร์วีเจียน ครูส ไลน์ ดิ่งลง 12.23%
นอกเหนือจากการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย.แล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนพ.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.