ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งหนังสือเวียนถึงบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ทุกแห่ง ขอให้บริษัทจดทะเบียนที่มีการลงทุนหรือมีแผนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลพิจารณาลงทุนด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงจากความผันผวนของราคา เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 แล้วนั้น
ในปัจจุบัน ก.ล.ต. พบว่า นอกจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแล้ว บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งยังเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นด้วย จึงได้ส่งหนังสือเวียนถึงบริษัทจดทะเบียนทุกแห่ง เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ขอให้บริษัทจดทะเบียนที่มีการลงทุนหรือประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลต้องจัดให้มีขั้นตอนและกระบวนการบริหารจัดการและระบบควบคุมภายในที่รัดกุมเพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นโดยรวม เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เช่น ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา หรือความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ เป็นต้น จึงอาจส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอย่างมีนัยสำคัญ
พร้อมกันนี้ ยังขอให้บริษัทจดทะเบียนต้องจัดให้มีระบบการควบคุมและจัดเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัย มีการแบ่งแยกหน้าที่ (segregation of duty) ระหว่างผู้รับผิดชอบในการดูแลกระเป๋าเงินดิจิทัล (wallet) และผู้รับผิดชอบในการสั่งซื้อหรือขายหรือโอนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลใน wallet ของผู้รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (custodian) ที่ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการ และมีระบบการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ รวมทั้งมีระบบในการติดตามตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลมีอยู่จริง ไม่มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้เพื่อประโยชน์โดยมิชอบ และการดำเนินการเป็นไปตามมาตรการและระบบที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ขอให้คณะกรรมการตรวจสอบให้ความเห็นต่อความเพียงพอของระบบควบคุมภายในเกี่ยวกับการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และเปิดเผยความเห็นดังกล่าวในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (56-1 One Report) เพื่อให้ผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนได้นำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย