นาย สกลกรย์ สระกวี ประธานกรรมการบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ได้มีโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวบัญชี Sakolkorn Sakavee ชี้แจงในกรณี ก.ล.ต.สั่งปรับและห้ามเป็นผู้บริหาร 12 เดือน โดยมีใจความว่า
“ผมขอชี้แจงกรณี โดน ก.ล.ต. สั่งปรับ และสั่งห้ามเป็นผู้บริหาร 12 เดือน หน่อยนะครับ
การถูกปรับครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปี 2562 หรือ 2019 ก.ล.ต. เข้ามาตรวจบริษัท Bitkub Online หลังจากได้ License ณ ขณะนั้นมี Exchange 3 เจ้า BX , Bitkub , Satang
ณ ขณะนั้นวงการคริปโตใหม่มาก พึ่งจะได้ License กัน ผมเชื่อว่าการกระทำ การสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ เป็นสิ่งที่ Exchange ทั่วโลก ณ เวลานั้น มีระบบพวกนี้เกือบหมด จึงทำให้มีความผิดพลาด และความไม่เข้าใจกฏเกณอย่างถี่ถ้วน จากทั้ง Bitkub และ Satang (ไม่ขอพาดพิง BX เพราะปิดไปแล้ว)
และเมื่อเราโดน ก.ล.ต.เข้ามาตักเตือน และสั่งหยุด และเราก็ยอมรับ และหยุดการกระทำตั้งแต่ ก.ล.ต. เข้ามา พร้อมทั้งมีการติดตั้งระบบป้องกันการจับคู่กันเองของคำสั่งซื้อขายที่ส่งมาจากบัญชีเดียวกัน และ มีทีม Market Surveillance เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม เช่น การส่งคำสั่งซื้อขายจับคู่กันเองจากหลายบัญชี โดยเร็วที่สุดตั้งแต่นั้นมา
สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อเหลือเกินว่า การที่ ก.ล.ต. ได้สั่งปรับ และยกเรื่องนี้เป็นสำคัญ หลังจากผ่านมา 3 ปี มาแล้วนั้น เพื่อเป็นการยกระดับการกำกับดูแลที่เข้มข้น เข้มงวดขึ้น
ซึ่งผมหวังว่ามาตราฐานที่ดีเช่นนี้ จะเป็นการกระทำที่ไม่เจาะจง เพียง Exchange บางราย แค่ Bitkub หรือ Satang แต่ ก.ล.ต. จะเข้าตรวจสอบทุกเจ้าที่มี License อยู่ในปัจจุบันด้วย เพราะผมเชื่อว่า เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ผู้ประกอบการท่านอื่นก็จะยินดีให้ทาง ก.ล.ต. เข้าไปตรวจสอบเช่นกันครับ
ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น จนถึงปัจจุบัน ผ่านมา 3 ปี Bitkub ไม่เคยปั้ม Volume trade รายได้ และ ภาษีที่ Bitkub จ่าย เมื่อปีที่แล้วเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ผมยังคงสู้อยู่ และดูแลภาพรวมของกลุ่ม Bitkub เช่นเดิม ยังมีอะไรให้เราต้องพัฒนาอีกมากมาย หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจและ เชื่อมั่นใน Bitkub ต่อไปครับ
ต้น สกลกรย์ สระกวี