นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ( GULF) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย หุ้นกู้ดิจิทัล 2 รุ่น อายุ 4 ปี และอายุ 7 ปี และหุ้นกู้ 2 รุ่น อายุ 4 ปี และอายุ 7 ปี
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้ฯ ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่ง GULF จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผลตอบแทนให้ทราบในภายหลัง
ทั้งนี้ หุ้นกู้ฯ ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ที่ระดับ “A-” และมีอันดับเครดิตองค์กร “A” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยคาดว่าจะเสนอขายในเดือน สิงหาคมนี้
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ฯ ของ GULF ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไปครั้งนี้ แบ่งเป็นหุ้นกู้ดิจิทัล 2 รุ่น อายุ 4 ปี และ 7 ปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท ส่วนหุ้นกู้อีก 2 รุ่น อายุ 4 ปี และ 7 ปี จะเสนอขายผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 9 แห่ง ประกอบด้วย
โดยจองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาท และทวีคูณครั้งละ 1 แสนบาท
“บริษัทมั่นใจว่าหุ้นกู้ฯ ดังกล่าวจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคงและให้ผลตอบแทนที่ดี นอกจากนี้ GULF ยังเพิ่มความหลากหลายในการเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้นี้ โดยเสนอขายผ่านช่องทางดิจิทัลในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และการจองซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้อีก 9 แห่งด้วย” นางสาวยุพาพิน กล่าว
การออกและเสนอขายหุ้นกู้ฯ ของ GULF ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้เดิมบางส่วน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ และรองรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ปัจจุบัน GULF ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) ที่โครงสร้างหลักแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. ธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Power Generation Business) 2. ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Business) 3. ธุรกิจก๊าซ (Gas Business) 4. ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค (Infrastructure & Utilities Business) และ 5. ธุรกิจดิจิทัล (Digital Business) โดยโครงการต่าง ๆ ของบริษัทจะได้รับรายได้ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ เนื่องจากมีสัญญาระยะยาวกับคู่สัญญาที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 GULF มีรายได้รวม 22,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,257 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 867 ล้านบาท หรือ 36% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สำหรับกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 1/2565 เท่ากับ 3,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% จาก 1,632 ล้านบาทในไตรมาส 1/2564 โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Interest-Bearing Debt to Equity) อยู่ที่ 1.77 เท่า