นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ผู้บริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงินและที่ปรึกษา Equity Derivatives ธุรกิจบริหารเงิน และผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มเพิ่มขึ้น เห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายนที่ขยับเพิ่ม 7.66% นอกจากผลกระทบจากราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ราคาก๊าซหุงต้มและกลุ่มอาหารที่เพิ่มสูงแล้ว ยังกดดันต่อผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
ประกอบกับ แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นที่จะส่งผลต้นทุนในระยะข้างหน้า เชื่อว่า ครึ่งหลังของปีนี้จะเห็นธนาคารในระบบต่างๆ แข่งขันระดมเงินฝาก โดยอาจต้องแย่งเม็ดเงินจากบริษัทเอกชน ซึ่งทยอยออกหุ้นกู้เพื่อล็อคต้นทุนเช่นกัน
ที่สำคัญตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นลูกค้าชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แต่ยังเห็นการเติบโตในหุ้นกู้ตลาดแรก ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทเอกชนต้องการล็อคต้นทุนรับกระแสอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และหุ้นกู้ตลาดรองลูกค้ารายย่อยก็เติบโตได้ดีมากสามารถซื้อขายได้ตลอดเวลาไม่ต้องรอหุ้นกู้ออกใหม่ ส่วนที่เติบโตโดดเด่นที่สุดคือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ซึ่งประมาณกว่า 80% เป็นอนุพันธ์แฝงอ้างอิงหุ้น (Equity Linked Note, ELN)
ทั้งนี้ จากปริมาณเงินฝากที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามความเสี่ยงที่เหมาะสม ซีไอเอ็มบีไทยจึงเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนและเงินฝากระยะสั้นได้แก่ ผลิตภัณฑ์ CIMB ELN และเงินฝากประจำ เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าและรักษาอัตราผลตอบแทนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาด ด้วยการขยับขึ้นดอกเบี้ยดักเงินลงทุนและเงินฝากก่อน คาดว่า จะเป็นการกระตุ้นตลาดโดยมีการตอบรับการแข่งขันเร็วขึ้นด้วยการขึ้นดอกเบี้ยตามซีไอเอ็มบีไทย
สำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนระยะสั้น CIMB ELN หุ้นกู้อนุพันธ์อ้างอิงหลักทรัพย์ (หุ้นใน SET50) เป็นเครื่องมือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงและสม่ำเสมอสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจในหุ้น เป็นการลงทุนอายุ 6 เดือน ผลตอบแทน 7.0-14.0% ต่อปี (KIKO, SMILE และ KIKO BASKET ELN)
“ในภาวะที่ตลาดหุ้นแกว่งตัวขาลง แต่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีโอกาสทรงตัวและฟื้นตัวเร็วขึ้น บวกลบที่ 1,500-1,600 จุด สถานการณ์นี้ จึงเหมาะกับผลิตภัณฑ์ CIMB ELN ซึ่งเป็นหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงที่อ้างอิงกับหุ้น ช่วยตอบโจทย์เรื่องผลตอบแทน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีความรู้ในหุ้นและมีประสบการณ์รับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง แต่กำลังรอดูสถาณการณ์การลงทุนในกองทุนรวมที่ไปลงทุนต่างประเทศ”
สำหรับ CIMB ELN สามารถลงทุนขั้นต่ำ 1 ล้านบาทคาดว่า จะมีลูกค้าลงทุนประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท ภายในเดือนกรกฎาคม 2565 ขณะเดียวกันธนาคารยังนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำอายุ 1 ปี จ่ายดอกเบี้ย 1.10% ต่อปี และเงินฝากอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 1.75% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือก สำหรับผู้มีเงินฝากที่ต้องการรักษาเงินต้น หรือ Conservative โดยกำหนดวงเงินฝากขั้นต่ำ 50,000บาท
นางสาววรภร ธรศุภภากร Head, Structured Product Distribution, Treasury and Markets และ Head, Private Wealth Strategy, Consumer Banking ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า เริ่มเห็นกลุ่มนักลงทุนอายุน้อยหันมาให้ความสนใจและศึกษาผลิตภัณฑ์ CIMB ELN มากขึ้น แม้ว่าชื่อของผลิตภัณฑ์จะฟังดูค่อนข้างซับซ้อน แต่จริงๆแล้ว ทำความเข้าใจในเงื่อนไขได้ไม่ยาก ซึ่งครึ่งปีหลังธนาคารจะนำผลิตภัณฑ์หุ้นกู้อนุพันธ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกให้นักลงทุนในการกระจายความเสี่ยง และโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
“ปีนี้ซีไอเอ็มบีไทยประสบความสำเร็จในการบริหารความมั่งคั่งหรือเวลธ์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายและเงินฝากเพื่อให้ลูกค้าเก็บรักษาเงินต้นควบคู่กับการหาผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นปีนี้ธนาคารจึงเปิดรับสมัครบุคลากรด้านเวลธ์ เพื่อเข้ามาเป็นทีมเสริมความแข็งแกร่งในการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วย” นางสาววรภรกล่าว
ทั้งนี้สิ้นปี 2565 ซีไอเอ็มบีไทยตั้งเป้าเติบโตเงินฝาก 10% จาก 182,167 ล้านบาทในปี 2564 โดยนอกจาก CIMB ELN แล้วยังเน้นเติบโตผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นๆ ทั้งหุ้นกู้ตลาดแรก หุ้นกู้/พันธบัตรตลาดรอง หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ได้แก่ Maxi Flexi ESG ผลิตภัณฑ์คุ้มครองเงินต้น มีผลตอบแทนขั้นต่ำ 1% ต่อปี โอกาสผลตอบแทน 3%-6% ต่อปี
หน้าที่ 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,799 วันที่ 10-13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565