บลจ.ไทยพาณิชย์ปั้นกองทุน RMF ตัวใหม่ เพื่อนักลงทุนระยะยาว

13 ก.ค. 2565 | 06:31 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ค. 2565 | 13:31 น.

บลจ.ไทยพาณิชย์มอง ดัชนี MSCI รับรู้ข่าวเภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว จากราคาหุ้นที่ปรับลงกว่า 21% ชี้เป็นโฮกาสลงทุน ปั้นกองทุน RMF ตัวใหม่ใหม่ “SCBRMWORLD" คัดหุ้นเด็ดประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก เพื่อนักลงทุนระยะยาว IPO 12-18 ก.ค. 65

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัดหรือ บลจ.ไทยพาณิชย์กล่าวว่า บลจ.ไทยพาณิชย์มองว่า ตั้งแต่ต้นปีดัชนี MSCI World รับรู้ข่าวความกังวลเรื่องเศรษฐกิจผันผวนและอาจก้าวสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสะท้อนไปในราคาหุ้นพอสมควรแล้ว เพราะปรับตัวลดลงมากว่า 21% รวมทั้งมูลค่าหรือ Valuation ของหุ้นก็กลับมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

บลจ.ไทยพาณิชย์ปั้นกองทุน  RMF ตัวใหม่  เพื่อนักลงทุนระยะยาว

ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนระยะยาวทยอยสะสมหุ้นบริษัทที่มีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตรากำไรสูงเติบโตต่อเนื่อง และเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตซึ่งมีโอกาสเติบโตในระยะยาว บลจ.ไทยพาณิชย์จึงส่งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ดัชนีหุ้นโลกเพื่อการเลี้ยงชีพ SCB World Equity Index RMF (SCBRMWORLD) เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 12-18 กรกฎาคม 2565

สำหรับความโดดเด่นของกองทุน SCBRMWORLD มาจากโอกาสสร้างผลตอบแทนตามดัชนี MSCI World มีการกระจายการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และกลางในกลุ่มหุ้นประเทศพัฒนาแล้วถึง 23 ประเทศ ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง เช่น Apple, Microsoft Corporation, Amazon.com, Tesla เป็นต้น

 

ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว และมีความผันผวนต่ำกว่าตลาดเกิดใหม่รวมถึงตลาดหุ้นไทย ขณะเดียวกันกองทุนนี้ยังมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินต่างประเทศที่กองทุนถืออยู่เทียบกับสกุลเงินบาท ไม่น้อยกว่า 90%  ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศเพื่อลดความผันผวนอีกด้วย 

ทั้งนี้ กองทุนหลักของ SCBRMWORLD คือ iShares MSCI World ETF บริหารงานภายใต้ความดูแลของ BlackRock Fund Advisors ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี MSCI World โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีดังกล่าว

 

ตลอดจนเป็น ETF ที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีสภาพคล่องในระดับสูงและมี Tracking Error ที่ต่ำที่สุดในกลุ่ม ETFs ที่อิงกับดัชนีนี้ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวในการสร้างผลตอบแทน ตามที่ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลก ปี 2565 ลงมาอยู่ที่ 2.9% และปี 2566 อยู่ที่ 3% เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดือนมกราคมที่มองว่า จะขยายตัว 4.1% และ 3.2% ตามลำดับ

 

อย่างไรก็ตาม เรามองว่า ศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึงแม้จะมีการปรับประมาณการลดลงแต่ยังคงอยู่ในทิศทางขยายตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงเติบโตสะท้อนจากการอุปโภคบริโภคที่ดีขึ้นและตัวเลขการจ้างงานที่ยังแข็งแกร่ง

 

รวมทั้งปัญหาด้านการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานหรือ Supply chain disruption เริ่มคลี่คลาย และสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกที่ดีขึ้น เป็นผลให้ประเทศต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุม และทยอยเปิดประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้กองทุน SCBRMWORLD น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน