วันนี้ (21 กรกฎาคม 65) นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สนง.สลากฯ ได้เพิ่มฟังก์ชั่น หรือ ร้านค้าผู้พิการ ในสลากดิจิทัล โดยจะเริ่มขายวันแรก 2 สิงหาคม 65 (ของงวดวันที่ 16 สิงหาคม 65) ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อที่ต้องการอุดหนุนสลากของผู้พิการ โดยในสลากฯ ที่เป็นโควตาของผู้พิการทุกใบ จะมีสัญลักษณ์ผู้พิการกำกับอยู่ด้านท้ายของสลากแต่ละใบด้วย
“สลากดิจิทัลที่เป็นโควตาของผู้พิการ จะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น ขณะนี้ สนง.สลากฯ อยู่ระหว่างให้ผู้พิการยืนยันตัวตนมายังสำนักงาน ซึ่งจะเป็นผู้ค้าสลากดิจิทัลเดิมในระบบอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่มีการแยกอย่างชัดเจน ขณะที่ในอนาคตจะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นเสียงในแอปเป๋าตัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้พิการมากขึ้นด้วย” นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวอีกว่า ขณะที่ในงวดวันที่ 16 สิงหาคม 65 ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 2 สิงหาคม 65 นั้น สำนักงานฯ จะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลอีก 2 ล้านใบ รวมเป็น 9.1 ล้านใบ จากงวดปัจจุบัน 7.1 ล้านใบ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการซื้อ
ขณะที่พฤติกรรมการซื้อสลากดิจิทัล พบว่า มีผู้ซื้อ 1 รายที่ซื้อสลากมากสุดถึง 3,000 ใบ รองลงมาคือ 1,000 ใบ โดย สนง.สลากฯ มีการติดตามพฤติกรรมของผู้ซื้อสลากดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ยังไม่พบพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือนำไปขายต่อแต่อย่างใด ซึ่งหากพบการนำไปขายต่อ สนง.สลากจะดำเนินการทางกฎหมายทันที พร้อมยืนยัน สลากดิจิทัลทุกใบ เป็นโควตาของผู้ค้ารายย่อย ไม่ใช่ของ สนง.สลากแต่อย่างใด
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกและกรรมการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า สำหรับสลากรูปแบบใหม่ ตัวเลข 3 หลักนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอื่นๆ อีก 5 ครั้ง ในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ชลบุรี ขอนแก่น เลย นครศรีธรรมราช และกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 10 สิงหาคม 2565
หลังจากนั้น สำนักงานฯ จะรวบรวมความคิดเห็น รวมทั้งผลการศึกษาผลกระทบทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
โดยสลากรูปแบบใหม่นี้ จะตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้นในรูปแบบเดิม ได้แก่ ปัญหาการขายไม่หมด เหลือสลากเลขไม่สวย และปัญหาเรื่องขาดเงินทุน เนื่องจาก สลากเลข 3 หลักจะจัดสรรเป็นโควตา และให้นำไปขายก่อน จากนั้นสำนักงานจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ขายได้จริงในแต่ละงวด
ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์นี้ จะตอบโจทย์ในการเปิดตลาดใหม่ให้กับผู้ที่ชอบเสียงโชค และเป็นการหารายได้เพิ่มให้รัฐบาล เพื่อการพัฒนาประเทศต่อไป