"OR" กำไรสุทธิ 6.56 พันล้านบาทไตรมาส 2/65 รับอนิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว

11 ส.ค. 2565 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ส.ค. 2565 | 18:10 น.

"OR" กำไรสุทธิ 6.56 พันล้านบาทไตรมาส 2/65 รับอนิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว หลังจากมาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ (OR) เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2565 ภาพรวมผลการดำเนินงาน ดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ เช่นเดียวกันกับด้านปริมาณขายก็ปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ 

 

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มจากปริมาณการขายน้ำมันอากาศยานและน้ำมันเตาในตลาดพาณิชย์เป็นหลัก 

 

รวมทั้งผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกและอุปทานที่ยังตึงตัวจากสถานการณ์คว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นประเทศส่งออกน้ำมัน เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ก็มีรายได้ขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ทั้งในส่วนของกลุ่มค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มค้าปลีกอื่น ๆตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและช่วงวันหยุดยาวตามเทศกาล

ทำให้ในไตรมาสนี้ OR รายได้ขายและบริการ และกำไรสุทธิจำนวน 211,431 ล้านบาท และ 6,568 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จำนวน 34,140 ล้านบาท และ 2,723 ล้านบาท 


อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา OR ได้เข้าลงทุนและร่วมลงทุนในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าลงทุนในบริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“KNEX”) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบอุตสาหกรรม รวมถึงประกอบกิจการร้านสะดวกซัก ภายใต้แบรนด์ Otteri Wash & dry รวมทั้งได้เข้าลงทุนใน บริษัท โพลาร์ แบร์ มิชชั่น จำกัด (“freshket”) ซึ่งนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการระบบห่วงโซ่อุปทานด้านอาหาร (Food Supply Chain Service) 

 

อีกทั้งยังได้ร่วมกับบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด (บุญรอดฯ) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมดื่ม เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่าย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรในแบบ inclusive growth ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งเน้นเติบโตในแบบ Outside-In โดยแสวงหาโอกาสการลงทุนในตลาดใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตร

นางสาวจิราพร กล่าวอีกว่า OR ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผนวกลงในโมเดลธุรกิจ ในไตรมาสที่ผ่าน OR ได้สานต่อกิจกรรมเติมเต็มรอยยิ้มให้เกษตรกรไทย โดยการรับซื้อผลผลิตต่าง ๆ จากเกษตรกรซึ่งประสบปัญหาจากการชะลอตัวของการรับซื้อผลผลิต การระบายผลผลิตออกสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เพื่อนำมามอบให้ผู้ที่เติมน้ำมันที่ PTT Station 

 

ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม หอมแดง และหอมหัวใหญ่ จำนวนรวม 13,707 กิโลกรัม ในเดือนเมษายน มะม่วงแฟนซีและสัปปะรดภูแล รวมปริมาณ 300,000 กิโลกรัม จากเกษตรกรในภาคเหนือ ในเดือนพฤษภาคม และมังคุดและสัปปะรดปัตตาเวีย รวมปริมาณ 100,000 กิโลกรัม ในเดือนมิถุนายน 

 

นอกจากนี้ OR ยังพร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด เข้ามาสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจของ OR เพื่อร่วมเติมเต็มศักยภาพและก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน พลิกโฉมตัวเองเป็น Inclusive Growth Platform เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การเติบโตทางธุรกิจเป็นการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive กับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคงและยั่งยืน