ธ.ก.ส. จัดทัพสาขา “แก้หนี้ แก้จน” เติมสินเชื่อดอกต่ำ หนุนลูกหนี้ฟื้น

28 ส.ค. 2565 | 05:10 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2565 | 12:15 น.

ธ.ก.ส.จัดทัพสาขา เข้าดูแลลูกค้าในพื้นที่แบบครบวงจร พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ ผ่านโครงการชำระดีมีคืน การปรับโครงสร้างหนี้ ไกล่เกลี่ยหนี้ พัฒนาอาชีพเดิม-อาชีพเสริม-อาชีพใหม่ และเติมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน หวังช่วยให้ลูกค้าฟื้นตัวได้

นายธนารัตน์  งามวลัยรัตน์  ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้กำหนดแนวทางการเข้าไปดูแลลูกค้า โดยให้ ธ.ก.ส. ทุกสาขาบูรณาการการออกแบบ-การจัดการเชิงพื้นที่ “แก้หนี้ แก้จน” ภายใต้แผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนโดยคนในชุมชน

 

และเน้นการเชื่อมโยงกับหัวขบวนตามแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดกระบวนการผลิต การจ้างงานตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยผู้จัดการสาขา ธ.ก.ส. ทุกสาขาต้องไปออกแบบ เพื่อเข้าไปดูแลและร่วมแก้ไขปัญหาไปพร้อม ๆ กับชุมชน

นายธนารัตน์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของเครื่องมือที่ ธ.ก.ส. เข้าไปสนับสนุน ประกอบด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ในช่วงขาขึ้นขณะนี้ออกไปให้นานที่สุด เพื่อมิให้เป็นภาระต้นทุนกับลูกค้าในช่วงการฟื้นตัว การจูงใจให้ลูกค้ารักษาประวัติการชำระหนี้ที่ดีไว้ โดยดูแลในเรื่องผลตอบแทน ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่คิดตามชั้นลูกค้า

 

ธนารัตน์  งามวลัยรัตน์  ผู้จัดการ ธ.ก.ส.

และการคืนเงินดอกเบี้ยเพื่อแบ่งเบาภาระผ่านโครงการชำระดีมีคืน จำนวน 2,000 ล้านบาท ให้กับลูกค้าที่ชำระหนี้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2566 การดูแลภาระหนี้สินเดิม เพื่อลดความกังวลใจในเรื่องหนี้ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ให้ลูกค้าสามารถชำระหนี้ได้ตามศักยภาพ การไกล่เกลี่ยหนี้ การจัดทำคลินิกหมอหนี้ เพื่อลดหนี้ครัวเรือน

 

การให้คำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ ทั้งหนี้ในและนอกระบบ การพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพ เช่น การให้ความรู้ด้าน Financial Literacy/Digital Literacy  การร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐเอกชน สถาบันการศึกษา ในการศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติเพิ่มทักษะ  ทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม อาชีพใหม่

 

การปรับเปลี่ยนการผลิตไปปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง การลดต้นทุนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต การยกระดับมาตรฐานสินค้า เป็นต้น  การเติมสินเชื่อใหม่ ภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรน เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุน เช่น

 

สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 สินเชื่อแฟรนไชส์ สินเชื่อ Green Credit สินเชื่อ Contract Farming อัตราดอกเบี้ย MRR สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.01 เป็นต้น 

 

การสนับสนุนช่องทางด้านการตลาดในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นตลาดในระดับท้องถิ่น ตลาด Modern trade ตลาด E- Commerce ควบคู่การสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการประกันภัยทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์เงินฝาก สงเคราะห์ชีวิต กองทุนทวีสุข กองทุนเงินออมแห่งชาติ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ในการดำเนินงานดังกล่าว ธ.ก.ส. ยังเน้นหนักในด้าน BCG Model เพื่อก้าวสู่การพัฒนาระดับสากลตามแนวทาง SDG โดยขับเคลื่อนผ่านชุมชนต้นแบบที่ธนาคารได้พัฒนาไว้แล้ว จำนวน 7,927 แห่ง   

 

อาทิ การปรับเปลี่ยนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การส่งเสริมการปลูกพืชที่สร้างมูลค่าสูง การทำเกษตรกรรมยั่งยืน ชุมชนไม้มีค่า ส่งเสริมการลดการเผา การปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ชุมชนท่องเที่ยว