23 ธ.ค.2565 - ยังกลายเป็นกระแสร้อนแรงในตลาดทุนไทย สำหรับ การเตรียมเดินหน้าจัดเก็บ 'ภาษีขายหุ้น' ของกระทรวงการคลังในปี 2566
ขณะล่าสุด วานนี้ เกิดวงสัมนา ถกเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง และ กลายเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า 'ทีดีอาร์ไอ' ชี้ เก็บภาษีหุ้น ได้ไม่คุ้มเสีย ทำต่างชาติหนีตลาดหุ้นไทย หลังจาก สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) จัดสัมมนาพิเศษ FETCO Capital Market Outlook “ภาษีขายหุ้น….คุ้มหรือไม่?”
ซึ่งในเวทีดังกล่าว เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีขายหุ้นดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นภาษีที่ทำลายขีดแข่งขันของตลาดทุนไทย โดยจะทำให้สภาพคล่องการซื้อขายของตลาดหุ้นลดลง ถดถอยในรอบ 20 ปี และนักลงทุนต่างชาติอาจเลือกที่จะหันไปลงทุนในตลาดหุ้นอื่นแทน เพราะต้นทุนที่สูงขึ้น อาจทำให้เสน่ห์หุ้นไทยน้อยลง
อย่างไรก็ดี นักธุรกิจใหญ่ที่น่าจับตามอง อย่างนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI และ กำลังจะสนามการเมือง ในนามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ต่างออกไป โดยนายเศรษฐา ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงเหตุผลสำคัญที่ต้องการให้กระทรวงการคลัง เดินหน้าจัดเก็บภาษีหุ้น ดังใจความต่อไปนี้
" ช่วงโควิดเราใช้เงินเยียวยากลุ่มอ่อนแอเยอะเพื่อให้สังคมที่ต้องการการช่วยเหลือเดินต่อได้ การหารายได้เพิ่มจากการเก็บภาษีจากกลุ่มที่พอจ่ายไหวจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อรักษาวินัยการคลัง ผลกระทบแค่ระยะสั้น ตลาดทุนไทยยังมีเสน่ห์ถ้าเศรษฐกิจดีและสังคมมีความเหลื่อมล้ำลดลง ก.คลังสู้ต่อครับ "
สำหรับความเห็นของนายเศรษฐานั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออกมาสนับสนุนการจัดเก็บภาษีหุ้น เพราะที่ผ่านมา นายเศรษฐา ประกาศบ่อยครั้ง ว่ารัฐต้องปฎิรูปฐานภาษี โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ใหม่ๆ กับกลุ่มคนรวย หรือ ภาษีคนรวย ในหลายรูปแบบ เช่น การเพิ่มจัดเก็บภาษีมรดก หลังมองว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย และ รายได้ใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น รัฐยังสามารถทำมาพัฒนาสังคม เศรษฐกิจไทย ได้อีกหลายเรื่องอีกด้วย