เอกชนออกหุ้นกู้ ไตรมาสแรกปี 66 โต 1.6% แตะ 2.7 แสนล้านบาท

05 เม.ย. 2566 | 04:31 น.
อัปเดตล่าสุด :05 เม.ย. 2566 | 04:47 น.

ThaiBMA เผยไตรมาสแรกปี 2566 เอกชนออกหุ้นกูเ แตะ 2.7 แสนล้านบาท ขยายตัว 1.6% พร้อมคาด กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 2.00%

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้ไทยเติบโตได้ต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นไตรมาส 1/66 ขยายตัว 2.0% จากสิ้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 16.1 ล้านล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ

ด้านการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ในไตรมาส 1/66 เท่ากับ 2.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการเสนอขายหุ้นกู้ต่อนักลงทุนทั่วไป (PO: Public Offering) ในสัดส่วน 43% ของยอดการออกรวม สูงขึ้นจาก 28% ในปี 65

เอกชนออกหุ้นกู้ ไตรมาสแรกปี 66 โต 1.6% แตะ 2.7 แสนล้านบาท

ขณะที่ผลสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของผู้ร่วมตลาดในรอบนี้ที่ส่วนใหญ่คาดว่า ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งไปสู่ระดับ 2.00%

นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า Bond yield รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี จะปรับตัวสูงขึ้นจาก ณ สิ้นไตรมาส 1 เฉลี่ยประมาณ 20 bps. ในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 66

ตามทิศทางการคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และไทย โดยปลายปี 66 คาดว่า Bond yield 5 ปี จะขยับขึ้นไปที่ 2.18% และ 10 ปี ขยับขึ้นไปที่ 2.61%

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)

สำหรับ Basel III Bond ที่มีการออกและเสนอขายในประเทศเป็นประเภท AT2 ทั้งหมด โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/66 มีมูลค่าคงค้างรวม 1.7 แสนล้านบาท จาก 23 รุ่น ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทย 8 แห่ง ซึ่งมีเงินกองทุนและสถานะของธนาคารในด้านต่างๆ ที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่มั่นใจใน AT1 ในต่างประเทศไม่ได้ส่งผลให้เกิดการซื้อขายที่ผิดปกติของตราสารหนี้ประเภทดังกล่าวในประเทศไทย

กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ในเดือนมกราคม ปี 66 นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสิ้นปีที่แล้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นการขายสุทธิในเดือนกุมภาพันธ์จากความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดภายหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานที่สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้ดี ถัดมาในเดือนมีนาคม เป็นการกลับเข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยจากความกังวลในเหตุการณ์ธนาคารของสหรัฐฯ และยุโรป

ภาพประกอบ ไตรมาส 1/66 นักลงทุนต่างชาติมียอดการขายสุทธิ

เมื่อรวมทั้งไตรมาส 1/66 นักลงทุนต่างชาติมียอดการขายสุทธิสะสมที่ 22,697 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 นักลงทุนต่างชาติมียอดการถือครองตราสารหนี้ไทยที่ 1.05 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6.5% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย อายุคงเหลือเฉลี่ยตราสารหนี้ที่นักลงทุนต่างชาติถือครองเท่ากับ 7.8 ปี ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อนหน้า

ด้านเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yield curve) ในไตรมาส 1/66 มีความชัดลดลง โดยรุ่นอายุไม่เกิน 5 ปี ปรับตัวสูงขึ้นตามการคาดการณ์การปรับขึ้นอัดราดอกเบี้ยนโยบาย  ในขณะที่รุ่นอายุมากกว่า 5 ปี มีการปรับตัวลดลงจากคาดการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำลง โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/66 Bond yield ไทยรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 18 bps. จากสิ้นปีที่แล้วมาอยู่ที่ 1.81%

ส่วน Bond yield 10 ปี ปรับตัวลดลง 23 bps. มาอยู่ที่ 2.41% อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate bond yield curve) อายุ 5 ปีของหุ้นกู้ค่อนข้างทรงตัวในไตรมาส 1 ปี 2566

ภาพประกอบ Bond yield 10 ปี

โดยอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้อายุ 5 ปี สูงขึ้น 2-14 bps. ในทิศทางเดียวกันกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ยกเว้นกลุ่มอันดับเครดิต AA ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/66 อันดับเครดิต AAA ปรับตัวมาอยู่ที่ 2.76% AA ที่ 2.97% A ที่ 3.28% BBB+ ที่ 4.45% และ BBB ที่ 5.05%