สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (11 เม.ย.) โดยราคาทองทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่าย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 15.20 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 2,019.00 ดอลลาร์/ออนซ์
จิม วิคคอฟฟ์ นักวิเคราะห์จาก Kitco.com กล่าวว่า มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งรวมถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์, สัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อในจีน และการแสดงความเห็นของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว และเชื่อว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะกลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ จีนเปิดเผยดัชนี CPI เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 1% ของเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1% โดยดัชนี CPI เดือนมี.ค.ขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564 ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ
ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.36% แตะที่ 102.2017 เมื่อคืนนี้
โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือน ก.พ. แต่คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะดีดตัวขึ้น 5.6% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.5% ในเดือน ก.พ.