ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นร่าง ส่งเสริมการขายกองทุนรวม

02 มิ.ย. 2566 | 09:28 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มิ.ย. 2566 | 09:29 น.

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นร่างประกาศสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ส่งเสริมการขายหน่วยของกองทุนรวม เพิ่มความยืดหยุ่นให้การส่งเสริมการขาย พร้อมใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจทุกประเภท

(2 มิ.ย. 66) หลังทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการยกเลิกการกำหนดหลักเกณฑ์การส่งเสริมการขายกองทุนรวม เพื่อลดความซ้ำซ้อนของกฎเกณฑ์ในประกาศ ก.ล.ต. รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นให้ภาคธุรกิจในการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพการแข่งขันทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น

จึงเห็นควรให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศเกี่ยวกับการจัดรายการส่งเสริมการขายกองทุนรวม ตามที่ได้หารือร่วมกับ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน "AIMC" ถึงแนวทางการปรับปรุงร่างประกาศดังกล่าว

รายละเอียดแนวทางการปรับปรุงร่างประกาศ ประกอบด้วย

  1. การกำหนดขอบเขตการใช้บังคับของประกาศ AIMC ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และกำกับดูแลการส่งเสริมการขายกองทุนรวมต่างประเทศให้มีมาตรฐานเดียวกัน ทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาดทุน
  2. ย้ายหลักเกณฑ์การส่งเสริมการขายในประกาศ ก.ล.ต. มายังประกาศ AIMC และปรับปรุงบางส่วนให้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น อาทิ อนุญาตให้จำกัดจำนวนของสมนาคุณกรณีส่งเสริมการขายการเปิดบัญชีที่ไม่มีเงื่อนไขให้ลงทุน ผ่อนคลายข้อกำหนดเกี่ยวกับความถี่ของการส่งเสริมการขายที่มีลักษณะเป็นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (DCA)
  3. กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้า ค้า หรือจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน (selling agents) มีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การส่งเสริมการขายตามประกาศ AIMC โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ไม่ต้องกำกับดูแลให้ selling agents ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน และเป็นธรรม รวมทั้ง บลจ. และ selling agents ยังคงต้องดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้มูลค่าของสมนาคุณโดยรวมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วย

โดยหากทาง ก.ล.ต. เห็นชอบประกาศส่งเสริมการขายที่ AIMC ได้ปรับปรุงในครั้งนี้ ประกาศดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจที่ให้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนทุกประเภท ทั้ง บลจ. ที่เป็นบริษัทสมาชิกของ AIMC และ selling agents

พร้อมกันนี้ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (คลิกที่นี่) โดยผู้เกี่ยวข้อง และผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ จนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2566