ศาลแพ่งเลื่อนการไต่สวน เหยื่อหุ้นกู้ "STARK" เป็น 27 พ.ย. 66

04 ก.ย. 2566 | 08:51 น.
อัพเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2566 | 08:51 น.

ตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ "STARK" รวมตัวหน้าศาลแพ่งกรุงเทพใต้ รอฟังการไต่สวนคดี ด้านศาลแพ่ง เลื่อนการไต่สวนไป 27 พ.ย. 66 หลังทนายจำเลยขอเลื่อน พร้อมให้ฝ่ายโจทก์ตกลงกันฟ้องแบบกลุ่ม

(4 ก.ย. 66) ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชันจำกัด (มหาชน) หรือ "STARK" ได้มีการนัดรวมตัวกัน เพื่อรับฟังการไต่สวนคำร้องการดำเนินคดีแบบกลุ่มกับ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้บริหารและกรรมการ ของ "STARK" กับพวกอีก 5 คน 

โดยกลุ่มผู้เสียหายได้ร้องต่อศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ เพื่อเอาผิดต่อกรรมการและผู้บริหารบริษัทดังกล่าวให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมกว่า 9,200 ล้านบาท 

ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทนายจำเลยทั้ง 5 ขอขยายเวลายื่นคำคัดค้าน และโจทก์ทั้ง 3 ไม่ค้าน กรณีมีเหตุสมควรอนุญาตให้ทนายความจำเลยทั้ง 5 ยื่นคำคัดค้านได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้ 

กรณีย่อมเป็นเหตุไม่สามารถทำการไต่สวนพยานโจทก์ทั้ง 3 และจำเลยทั้ง 5 ต่อไปในวันนี้ได้ ให้ เลื่อนไปนัดไต่สวนคำร้องนี้ใหม่ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 9.00น. ตามที่มีวันว่างตรงกัน 

อนึ่ง ตามที่ผู้ร้องทั้งหกยื่นคำร้องสอดเข้ามาในคดี ตามคำร้องลงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ศาลได้สอบถามผู้ร้องทั้ง 6 ร่วมกับทนายโจทก์ทั้ง 3 แล้ว

เห็นว่าแนวทางในการดำเนินคดีของทั้ง 2 กลุ่ม ยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้ง 2 ฝ่ายขอปรึกษาหารือกันก่อนถึงวันนัดไต่สวนคำร้องในนัดหน้า ซึ่งจะได้ แถลงต่อศาลให้ทราบต่อไป จึงให้รอไว้สั่งคำร้องของผู้ร้องทั้ง 6 ในวันนัดหน้า

อย่างไรก็ตามสืบเนื่องจากทนายความจำเลยที่ 3 ขอเลื่อนการไต่สวน โดยให้เหตุผลว่า เพิ่งได้รับคำร้อง จึงจอขยายระยะเวลายื่นคำคัดค้าน และทนายความจำเลยที่ 5 ได้ให้ตัวแทนมายื่นหนังสือต่อศาลขอให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องออกไป เนื่องจากไม่สะดวกเดินทางมาร่วมไต่สวนที่ศาลในวันนี้ได้ เหตุติดว่าความคดีที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร จึงให้เลื่อนการไต่สวนออกไป

ด้านนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความของผู้เสียหายในคดีหุ้น STARK ระบุว่า การฟ้องร้องคดีแบบกลุ่มจะแตกต่างจากคดีสามัญทั่วไป โดยศาลจะพิจารณาว่าจะรับการฟ้องร้องเป็นกลุ่มก่อน แล้วจึงจะพิจารณาว่าจะรับฟ้องแพ่งหรือไม่ต่อไป 

โดยทีมกฎหมายได้ยื่นคำร้องฟ้องแพ่งไปพร้อมกับคำร้องที่ขอให้ศาลรับฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่ม ซึ่งจะครอบคลุมถึงผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 4,000 คนรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 9,000 ล้านบาท

ส่วนการที่มีผู้เสียหายมาแทรกร่วมฟ้อง ก็ยินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลกัน เพื่อร่วมกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย แต่อยากให้คำนึงหลักการสำคัญของการสู้คดีนี้ว่า จะต้องร่วมมือกัน อย่าไปเพิ่มขั้นตอนที่อาจส่งผลให้การสู้คดีมีความล่าช้า 

เพราะผู้เสียหายทุกคนต่างก็เดือดร้อน ซึ่งเห็นด้วยกับศาลว่าหากผู้ที่มาแทรกร่วมฟ้อง ไม่มั่นใจทีมทนายความชุดนี้ ก็สามารถแยกไปฟ้องเองได้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามกฏหมายอยู่แล้ว

ขณะที่ด้านนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ผู้สอนวิชากฎหมาย ณ มหาวิทยาลัยลอนดอน SOAS และเป็นที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายที่ถือหุ้นกู้ STARK เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กรณีที่ศาลนัดเลื่อนการไต่สวน มาจากทนายความของจำเลยที่ 3 และที่ 5 ขอขยายเวลายื่นคำคัดค้าน และโจทก์ทั้ง 3 ไม่ค้าน ทำให้ศาลพิจารณาเลื่อนการไต่สวนในครั้งนี้ออกไป

ส่วนเรื่องคดีการฟ้องร้องแบบกลุ่มที่ยังตกลงไม่ได้ ยืนยันว่าทางกลุ่มตนยินดีที่จะร่วมฟ้อง แบบกลุ่มกับทาง นายจิณณะ โดยยินดีที่จะทำงานร่วมกัน 

พร้อมมองว่าการแยกกันฟ้องอาจทำให้คดีมีความล่าช้า รวมทั้งผู้เสียหายบางคนอาจตกหล่น จึงอยากใช้ระยะเวลาที่ศาลนัดเลื่อนการไต่สวน เพื่อหารือวางแนวทางในการหาทางออกร่วมกันของกลุ่มผู้เสียหาย