ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ในฐานะประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า FETCO จะเข้าพบคณะทีมทำงานกระทรวงการคลังในวันที่ 14พ.ย.2566 เพื่อหารือเกี่ยวกับกองทุนเพื่อการออม (SSF) ที่จะครบอายุในปี 2567 ว่าจะมีการต่ออายุหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากมีการต่ออายุกองทุนSSF
อยากให้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการลงทุนให้เหมือนกับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) โดยเน้นลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นหลัก และระยะเวลา 10ปีนั้นนานเกินไปหากปรับลดให้ต่ำกว่า 10ปีเชื่อว่าจะช่วย
สนับสนุนการลงทุนและการออมได้ แต่ก็ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะสามารถให้อะไรได้มากน้อยแค่ไหน
ต่อข้อถามตลาดหุ้นไทย
ดร.กอบศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ตกลงนั้น มองว่า ไม่
น่าตกใจ ไม่น่ากังวลใจ เพราะส่วนตัวมั่นใจศักยภาพไทยในระยะยาว และมองว่าเป็นจังหวะทยอยซื้อหุ้นไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีการจ่ายปันผลดี โดยมีฐานะเงินกองทุน ที่แข็งแกร่ง และกำไรค่อนข้างดี
สำหรับทิศทางการลงทุนปีหน้านั้น มองว่าตราสารหนี้ต่างประเทศเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะราคาดี บวกดอกเบี้ยบวกอัตราแลกเปลี่ยน อย่าง
บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ จะดี บวกสูง ส่วนทองคำหากไม่มีสงครามจะยาก
สำหรับหุ้นไทยตอนนี้โอกาสน่าสนใจมาก แม้จะลงมาตลอดแตะ1,300จุดแล้ว
ส่วนแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) นั้นปีนี้เงินไหลยังไหลกลับเข้า
สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการดึงสภาพคล่องกลับ จากที่เฟดทำมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเชิงปริมาณ (QE)จำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์ไป
ฉะนั้นโอกาสที่ฟันด์โฟลว์จะไหลกลับมาไทยยังไม่เยอะ เพราะยังมีแรงกดด้นดูดสภาพคล่องกลับสหรัฐ แต่เมื่อสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดีขึ้น เชื่อว่าจะกลับมาทั้งตลาดหุ้นไทยและอาเซียนในกลางปี 2567