"เฟด" ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด ดันอัตราดอกเบี้ยสหรัฐสูงสุดรอบ 14 ปี

02 พ.ย. 2565 | 23:42 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2565 | 06:53 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นไปตามคาด และเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ดันอัตราดอกเบี้ยสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี “พาวเวลล์” ชี้การสู้เงินเฟ้อ “ต้องใช้เวลา” ส่งสัญญาณยังไม่ผ่อนคันเร่ง

 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (2 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการพุ่งแรงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่เข้าสู่ปี 2565 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% เนื่องจากเฟดพุ่งเป้าไปที่การต่อสู้ ภาวะเงินเฟ้อ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีของสหรัฐ

 

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งถูกปรับขึ้นมาแตะ 3.75-4.00% ในปัจจุบัน นับเป็นระดับสูงที่สุดของสหรัฐตั้งแต่เดือน ม.ค. 2551 หรือในรอบกว่า 14 ปี

 

ทั้งนี้ เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน หลังปรับขึ้นอัตราเดียวกันในเดือนมิ.ย., ก.ค. และ ก.ย. ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง และนับเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ของเฟดในช่วง 9 เดือนหลัง

 

นอกจากนี้ แถลงการณ์ล่าสุดของ FOMC ยังส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยระบุว่า "เฟดจะพิจารณาการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน จากปัจจัยผลกระทบที่นโยบายทางการเงินมีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และความคืบหน้าทางเศรษฐกิจและทางการเงินด้วย"

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แถลงว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดอัตราเงินเฟ้อลงมานั้น "ยังต้องใช้เวลา" และการต่อสู้กับเงินเฟ้อจะส่งผลให้การเติบโตของสหรัฐชะลอตัว อย่างไรก็ดี เฟดจะหารือเรื่องการผ่อนความเร็วการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้

 

เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด

การประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ของเฟดเป็นไปตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 86.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนัก 47.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้

 

ขณะเดียวกัน บรรดานักลงทุนคาดว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. และจากนั้นจะเริ่มลดวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. ปีหน้า (2566)

 

นายไมเคิล กาเพน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า “เราคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้ และจากนั้นจะเริ่มส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.”

 

คาด "เงินเฟ้อ" สหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว

ดัชนี PCE บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะลดแรงกดดันในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

สำนักงานสถิติกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 6.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 6.2% เช่นกันในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.3%

 

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนส.ค.

 

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 5.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.2% แต่สูงกว่าระดับ 4.9% ในเดือนส.ค.

 

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.

 

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)