นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การพิจารณาขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ที่จะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 20 ม.ค.66 ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวโน้มราคาน้ำมัน ยังตอบไม่ได้ว่าจะต่ออายุหรือไม่
โดยต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะแม้ภาพรวมราคาน้ำมันตลาดโลกจะลดลง แต่จะต้องดูราคาน้ำมันดีเซล ที่อ้างอิงราคาจากตลาดสิงคโปร์เป็นส่วนประกอบด้วย
“เรายังไม่สามารถระบุได้ว่าจะขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซลออกไปอีกหรือไม่ ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้แนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง แต่ไทยยังดูราคาน้ำมันดีเซลอ้างอิงจากประเทศสิงคโปร์ด้วย ซึ่งยังอยู่ในอัตราที่สูงอยู่”
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลดภาษีน้ำมันดีเซล กระทบต่อการจัดเก็บรายได้กรมสรรพสามิต โดย 2 เดือนแรกปีงบประมาณ 2566 สรรพสามิตเก็บรายได้ภาษีน้ำมันได้เพียง 8,389 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 11,035 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตลดภาษีดีเซล เพื่อพยุงราคาน้ำมันไปแล้ว 5 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ 18 ก.พ.65 -20 ม.ค.66 สูญรายได้รวมแล้วกว่า 1.08 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น
รอบที่ 1 วันที่ 18 ก.พ.65 – 20 พ.ค.65 ลดภาษีน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท นาน 3 เดือน ส่งผลให้รัฐสูญรายได้ 18,000 ล้านบาท
รอบที่ 2 วันที่ 21 พ.ค. – 20 ก.ค.65 ลดภาษีน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท นาน 3 เดือน ส่งผลให้รัฐสูญรายได้ 30,000 ล้านบาท
รอบที่ 3 วันที่ 21 ก.ค. – 20 ก.ย.65 ลดภาษีน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท นาน 2 เดือน ส่งผลให้รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
รอบที่ 4 วันที่ 21 ก.ย. – 20 พ.ย.65 ลดภาษีน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท นาน 2 เดือน ส่งผลให้รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
รอบที่ 5 วันที่ 21 พ.ย.65 – 20 ม.ค.66 ลดภาษีน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท นาน 2 เดือน ส่งผลให้รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท