นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขยายพันธมิตรโครงการ The S1 โดยบูรณาการความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)
ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันพัฒนารูปแบบธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการให้บริการและช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนที่สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมบริการอื่น ๆ ครบวงจร เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของ SMEs ไทยในการดำเนินธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
นายรักษ์ กล่าวว่า ภายใต้โครงการ The S1 (SMEs One) สถาบันการเงินทั้ง 4 แห่งจะใช้ความเชี่ยวชาญในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้พร้อมสนับสนุน SMEs ใน Supply Chain การส่งออก ให้ได้รับบริการทั้งสินเชื่อและการออกหนังสือค้ำประกันอย่างรวดเร็ว
และสอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจภายใต้การบริการผ่านช่องทางสาขาร่วม และช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับประสิทธิภาพการบริการแก่ลูกค้า SMEs
นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับโครงการ The S1 โดยเฉพาะเพื่อบรรเทาภาระต้นทุนทางการเงินพร้อมทั้งให้สิทธิประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการที่เป็นคนตัวเล็กในโลกธุรกิจให้สามารถเริ่มต้นหรือขยายกิจการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในเวทีการค้าโลกยุคใหม่
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้เข้าถึงการสนับสนุนจากสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อให้ SMEs ซึ่งมีจำนวนถึง 99% ของผู้ประกอบการทั้งระบบ หรือกว่า 3.18 ล้านราย เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ SMEs มีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจในสัดส่วน 34% ของ GDP ประเทศ และมีสัดส่วนต่อการจ้างงานถึง 72% ของการจ้างงานทั้งระบบ แต่ผู้ประกอบการ SMEs ไทยยังเผชิญข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
"สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 4 แห่ง จึงผนึกกำลังความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้ก้าวข้ามข้อจำกัดและดำเนินธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ"