นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ตั้งวงเงินสิทธิให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนมีนาคม 2566 ดังนี้
ทุกวันที่ 1 ของเดือน (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
* ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
* ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล) ทุกวันที่ 18 ของเดือน (เป็นวงเงิน e-Money สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตั้งแต่วันที่ 1- 28 กุมภาพันธ์ 2566 รวมทั้งสิ้น 3,989.72 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวม 3,584.26 ล้านบาท ได้แก่
2. สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) รวม 405.46 ล้านบาท ได้แก่
ทั้งนี้ ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะสามารถใช้บัตรฯ ได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เนื่องจากกระทรวงการคลังได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 แล้ว โดยมีผู้ได้รับสิทธิ จำนวน 14.59 ล้านคน