จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการด่วนโดยได้มอบหมายให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ติดตามสถานการณ์การปิดแบงก์ของสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด พร้อมกับประเมินผลว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่นั้น
ล่าสุด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธ.ป.ท.) ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เชื่อว่าผลกระทบจะไม่มาถึงประเทศไทย และมั่นใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้น จะไม่ลามเป็นวิกฤติการเงินทั่วโลกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับกรณี เลห์แมน บราเธอร์ส (Lehman Brothers) ในปี 2008 หรือ ปีพ.ศ. 2551
“ผลกระทบคงไม่มากขนาดนั้น เพราะในปี 2008 เกิดจากหนี้เสียจากการปล่อยกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เกิดวิกฤติลามไปสู่ภาคอื่น แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีสัญญาณว่าจะลุกลามไปมากขนาดนั้น ซึ่งข้อมูลที่รัฐบาลมีอยู่ตอนนี้คงไม่ถึงขนาดวิกฤติเลห์แมน บราเธอร์ส”
ทั้งนี้ยอมรับว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank : SVB) ก็ถือว่ามีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับธนาคารอื่น ๆ และเป็นปัญหาเฉพาะของการดำเนินกิจการของธนาคารสหรัฐฯ ซึ่งได้ปล่อยกู้ให้กับกลุ่มสตาร์ทอัพ แต่จากนี้ไปก็คงต้องติดตามสถานการณ์อีกนิดว่าจะส่งผลกระทบลามไปยังธุรกิจอื่น ๆ หรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ถ้ามีการเข้าไปแก้ไขได้ก็ไม่น่าวิตกเท่าใดนัก