หลังจากได้เกิดวิกฤติแบงก์สหรัฐอเมริกา ถึง 3 ธนาคารติดต่อกันภายใน 1สัปดาห์ ตั้งแต่ Silvergate Capital ธนาคารที่เน้นการให้บริการกับลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมคริปโต ประกาศปิดกิจการลงหลังจากที่ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรง ตามมาด้วย SVB (Silicon Valley Bank) ที่ถูกบรรษัทประกันภัยเงินฝาก (Federal Deposit Insurance Corporation) หรือ FDIC เข้าควบคุมกิจการธนาคาร เช่นเดียวกับธนาคารล่าสุด ธนาคารซิกเนเจอร์ (Signature Bank)
ในขณะเดียวกันสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะจัดตั้งโครงการ "Bank Term Funding Program" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB
โครงการ "Bank Term Funding Program" ของนั้น มีรายละเอียดคือ
เสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์, สถาบันรับฝากเงิน, เครดิตยูเนี่ยน และสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ โดยสถาบันการเงินที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินกู้จากโครงการนี้ จะต้องยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)
ซึ่งเป้าหมายของโครงการ "Bank Term Funding Program" ผ่านการออกแถลงการณ์ร่วมของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมด้วยนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายมาร์ติน กรุนเบิร์ก ประธานบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ก็เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับระบบธนาคารในการป้องกันเงินฝาก และสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีการจัดหาเงินสดและสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ด้าน วรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.บัวหลวง ได้แสดงความเห็นต่อโครงการ "Bank Term Funding Program" ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า มาตรการดังกล่าวตรงกับที่เคยแสดงความเห็นไว้เมื่อหลายปีมาแล้วว่า หากมีการแห่ถอนเงินจะลุกลามในวงกว้าง การรับประกันเงินฝากแบบจำกัดวงเงินต่อราย ที่สถาบันประกันเงินฝากกำหนดก็จะไม่เวิร์ค เนื่องจากวิธีหยุดที่ดีที่สุดคือการออกมาประกาศว่าจะอุ้มทั้งหมด
ซึ่งโครงการ "Bank Term Funding Program"ของเฟดนี้ จะทำให้ธนาคารสามารถกู้เงินได้มากกว่ามูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน ซึ่งหากแบงก์นำพันธบัตรรัฐบาลที่มูลค่าตลาดในปัจจุบันลดลงอย่างมาก จากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรง และต่อเนื่องของ Fed มาวางเป็นหลักประกันขอกู้ ก็จะได้มูลค่าเต็มตามหน้าตั๋ว ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ จะเป็น Backstop หรือหลังพิง ให้เงินฝาก “ทั้งหมด” ไม่ใช่เฉพาะส่วนที่ได้รับความคุ้มครอง
วรวรรณ ย้ำในตอนท้ายด้วยว่า มาตรการ"Bank Term Funding Program" จะได้ผลหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูต่อไปด้วย