กบข.ห่วงตลาดทุนโลกผันผวน กระทบพอร์ตลงทุน

15 มี.ค. 2566 | 07:54 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มี.ค. 2566 | 09:30 น.

กบข.ยันไม่ได้ลงทุนในธนาคารสหรัฐที่โดนสั่งปิด พร้อมจับตาสถานการณ์ความผันผวนของดอกเบี้ยนโยบาย ภาวะเงินเฟ้อ การขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุน หวั่นกระทบพอร์ตลงทุนของกองทุน

จากกรณีธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯ 3 แห่ง ได้แก่ Silicon Valley Bank (SVB), Signature Bank และ Silvergate Bank ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องจนถูกสั่งปิดกิจการและถูกควบคุมโดยหน่วยงานภาครัฐนั้น

ล่าสุด นางศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ไม่มีการลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ของธนาคารทั้ง 3 แห่ง หรือสินทรัพย์ดิจิทัลแต่อย่างใด โดยวิกฤตการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดพลาดจากนโยบายและการบริหารจัดการทรัพย์สิน (Asset) และหนี้สิน (Liabilities) ของ SVB

นางศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

 

กบข.ประเมินว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ขยายวงกว้างและลุกลามไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการควบคุมและจำกัดผลกระทบให้อยู่ในวงแคบ เพื่อลดความตื่นตระหนกของประชาชน และฟื้นความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมยืนยันเสถียรภาพของระบบการเงินของสหรัฐฯ ว่ายังมีความแข็งแกร่ง

กบข. ยังมองว่า ตลาดการลงทุนยังมีความผันผวนจากความไม่แน่นอนของนโยบายอัตราดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อ การขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุน รวมถึงกลุ่ม Venture capital Private equity และ Startup จะมีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนน้อยลง สิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบกับกำไรและงบดุลของกลุ่มธนาคาร และเป็นสัญญาณเชิงลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นทั่วโลก

ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 2 ปี และ 10 ปี ได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรง ประมาณ 0.4-0.7% สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนโดยรวมของ กบข.

อย่างไรก็ตาม กบข. ได้ติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด และได้ดำเนินนโยบายการลงทุนอย่างรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่สมาชิก