ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.66 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้โพสต์ข้อความว่า เปลี่ยนแอร์ 200 ล้าน เปิดพัดลมทั้งสรรพากร ซึ่งระบุว่า กรมสรรพากร จ้างปรับปรุงเปลี่ยนระบบเครื่องปรับอากาศใหม่ทั้งอาคารสำนักงานใหญ่ วงเงิน 191,844,975.85 บาท ผู้ที่ได้งานเป็นบริษัทผลิตแอร์เบอร์ใหญ่ยี่ห้อมีชื่อของบ้านเรา บิดแข่งกับบริษัทขายแอร์เล็ก ๆ แถวนวมินทร์
โดยติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบจ่ายลมเย็นอินเวอร์เตอร์ผ่านท่อลม รุ่น Air Handling Unit Inverter ขนาด 250,000-600,000 BTU รวมจำนวน 5 ตัว และมีเครื่องระบายความร้อนความเย็น เครื่องเติมอากาศและปรับทิศทางลมอีก 1,687 ตัว ตรวจรับแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 61
ติดตั้งแรก ๆ ก็เย็นดี แต่หลังตรวจรับเพียงสองสัปดาห์ก็รู้เรื่อง แอร์เริ่มติด ๆ ดับ ๆ แจ้งแก้ไขมาตลอด 2 ปี ก็ได้คำตอบเพียงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ปัจจุบันทั้งตึก 27 ชั้น มีเพียงแอร์ชั้นผู้บริหาร กองบริหารการคลังและรายได้ ที่ยังเย็นอยู่ในบางจุด
ส่วนเจ้าหน้าที่กว่า 80 % ต้องทำงานแบบไม่มีแอร์ ทนร้อนกันไม่ไหวก็ขนทั้งพัดลม พัดลมไอน้ำ แอร์เคลื่อนที่ มากันเอง เกลื่อนไปหมดทั่วสำนักงาน และบางชั้นต้องควักเงินซื้อแอร์มาติดเองเพราะอยู่กันไม่ได้
โดยล่าสุด นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ได้ชี้แจงว่า ในการเปิดประมูลแอร์ของกรมสรรพากรนั้น เริ่มดำเนินการช่วงปี 2560 และมีการตรวจรับในช่วงปี 2561 โดยต้นเรื่องมีการเปิดประมูลโดยตั้งราคากลางอยู่ที่ 300 ล้านบาท บริษัทที่มีคุณสมบัติได้เข้ามาประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ที่ชนะการประมูลเสนอราคาประมาณ 190 ล้านบาท กรมมีการตรวจรับอย่างถูกต้อง
“กรมสรรพากรตั้งราคา 300 ล้านบาท แต่ได้มาในราคาเกือบ 200 ล้านบาท จากการดำเนินการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำมาก และบริษัทที่ชนะการประมูลก็มีประสบการณ์โดยตรง ไม่ได้ให้บริการที่กรมเป็นที่แรกมีประสบการณ์ตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทก็เข้ามาด้วยการชนะการประมูล”
ทั้งนี้ ปัจจุบันแอร์ยังอยู่ในการรับประกันตามสัญญา โดยระยะประกันนาน 5 ปี ที่ผ่านมาที่แอร์เสียก็มีการปรับซ่อมไป และขณะนี้ก็อยู่ในกระบวนการแจ้งให้มาดำเนินการ ระหว่างนี้ กรมสรรพากรก็พยายามช่วยแก้ไขปัญหากันภายใน ซึ่งบริษัทผู้ชนะการประมูลก็จะมีการเข้ามาแก้ปัญหาเหมือนที่ผ่านมา