นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ LOTTERY 6 (L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก หรือ NUMBERS 3 (N3) นั้น ขณะนี้สำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการส่งรายละเอียดให้ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปครบถ้วนแล้ว ตอนนี้อยู่ขั้นตอนที่ สคร. ตรวจสอบดูความถูกต้องชัดเจนในเชิงข้อกฎหมายอยู่
“ตอนนี้ขั้นตอนการดำเนินการไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสลากฯ โดยจากนี้เมื่อการดำเนินการเสร็จสิ้น ก็อยู่ที่ รมว.คลัง แล้วว่าจะเสนอเข้า ครม. หรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะยังมองภาพได้ไม่ชัดเจน เพราะว่ากำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ โดยก็ยังไม่แน่ใจว่าการที่จะมีรัฐบาลใหม่ มารยาททางการเมืองจะทำให้มีการเสนอเรื่องดังกล่าวเข้า ครม.หรือไม่”นายธนวรรธน์กล่าว
อย่างไรก็ดี จากการที่ทางสำนักงานสลากฯ ได้ตีความก็จะเห็นว่าทาง ครม.มีการพิจารณาผลิตภัณฑ์ L6 และ N3 โดยละเอียดแล้ว ดังนั้น การพิจารณาโดยละเอียดจาก ครม.ที่มีอำนาจเต็ม ก็มีการอนุมัติในหลักการให้สำนักงานสลากฯ ดำเนินการได้ เพียงแต่ต้องมีการออกร่างประกาศให้ชัดเจน และให้ ครม. พิจารณาอีกครั้ง
ซึ่งหากกระทรวงการคลังรวบรวมข้อมูลได้นำเสนอ ครม. ซึ่งขณะนี้เป็น ครม.รักษาการ จะสามารถดำเนินการในนโยบายเดิมที่ทำไว้ได้ แต่จะไม่สามารถเสนอในนโยบายใหม่ได้ตามหลักการ
“ต้องรอดูว่ากระทรวงการคลังจะนำเสนอ เข้า ครม.เมื่อไหร่ ทางสำนักงานสลากฯ พร้อมดำเนินการต่อทันที แต่หาก ครม.ชุดปัจจุบันนี้ไม่ได้มีการพิจารณา ทางสำนักงานสลากฯ ก็ยืนยันว่าจะคงนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้ ครม.ชุดใหม่ พิจารณาต่อแน่นอน”นายธนวรรธน์กล่าว
ทั้งนี้ หากถามในเรื่องผลกระทบในช่วงรอยต่อระหว่าง ครม.ชุดรักษาการ กับ ครม.ชุดใหม่ ที่จะมา ก็อาจจะมีผลในเรื่องของผลิตภัณฑ์ N3 เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ในส่วน L6 เป็นสิ่งที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการในส่วนของสลากดิจิทัลอยู่แล้ว โดยการออกผลิตภัณฑ์ L6 จะช่วยในส่วนการเติมผลิตภัณฑ์สลากดิจิทัลได้ง่ายขึ้นและทันท่วงที
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ มียอดพิมพ์สลากอยู่ที่ 100 ล้านใบ ซึ่งการที่จะเพิ่มสลากดิจิทัลได้ก็ต้องเป็นการตัดจากโควต้าจากผู้ค้าสลากที่กระทำความผิด โดยทางสำนักงานสลากฯ ก็จะนำมาออกเป็นสลากดิจิทัลได้ ซึ่งก็เป็นรูปแบบกลไกที่ดำเนินอยู่ในกฎหมายปัจจุบัน
“ยอมรับว่าการไปตรวจสอบตัดโควตาผู้ค้าสลากที่กระทำผิด ดำเนินการได้ยากขึ้น เพราะผู้ค้ามีการระวังในการทำผิดน้อยลง พวกแพลตฟอร์มที่นำไปขายออนไลน์ก็ลดหายไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อมีการยึดสลากมาก็จะต้องนำมาจัดสรรให้ผู้ค้าที่มาลงทะเบียน ให้เข้าดำเนินการทำธุรกรรมเพื่อขายในรูปแบบสลากดิจิทัล ส่งผลให้การเติมสลากดิจิทัลในขณะนี้ไม่เร็วพอ แต่หากออกผลิตภัณฑ์ L6 ก็จะทำให้การเติมสลากดิจิทัลได้ทันท่วงที”นายธนวรรธน์กล่าว
เมื่อถามนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่หาเสียงเกี่ยวกับการจัดสลากฯ จะมีผลอะไรก็สำนักงานสลากฯ หรือไม่ นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ เป็นของประชาชน ซึ่งก็เชื่อว่าการที่ประชาชนเลือกรัฐบาล เลือก ส.ส. เข้ามาบริหารประเทศ ก็เป็นการเลือกคนที่เหมาะสมมาเป็นกระบอกเสียงให้ตนเอง
ซึ่งรัฐบาลนั้นก็มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ แต่รัฐบาลที่ประชาชนเลือกเข้ามาก็ควรเป็นรัฐบาลที่ยึดผลประโยชน์เพื่อประชาชนเป็นหลัก ซึ่งทางสำนักงานสลากฯ ก็พร้อมดำเนินการตามนโยบายที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้งอยู่แล้ว
“ที่ผ่านมาสำนักงานสลากฯ ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ให้สามารถเข้าถึงการซื้อสลากในราคา 80 บาท รวมถึงดำเนินการกำจัดคนที่เอาเปรียบประชาชนขายสลากเกินราคา ซึ่งก็เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะยังคงยึดนโยบายที่คำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่ สำนักงานสลากฯก็พร้อมดำเนินการตาม”นายธนวรรธน์กล่าว