คลังประกาศผลอุทธรณ์ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” 12 มิ.ย.นี้

12 พ.ค. 2566 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ค. 2566 | 10:06 น.

คลังเผย “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” แห่ยื่นอุทธรณ์ทั้งสิ้น 1.26 ล้านคน พร้อมประกาศผล 12 มิ.ย.นี้ ชี้ผู้ผ่านเกณฑ์ 4 พ.ค.นี้ เร่งยืนยันตัวตน เพื่อใช้สวัสดิการผ่านบัตรประชาชนได้ 18 พ.ค.66

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,266,682 ราย

 

 

ซึ่งปัจจุบันได้สิ้นสุดระยะเวลาการให้ยื่นอุทธรณ์ของผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติแล้ว และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติกับหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติ และจะมีการประกาศผลการพิจารณาผลอุทธรณ์ในวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566

 

ขณะที่ผู้ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติที่มีการประกาศผล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2566 แล้วพบว่า มีสถานะ “ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ” (ผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติรอบใหม่) ซึ่งมีจำนวน 416,153 ราย จะต้องดำเนินการยืนยันตัวตนที่

  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ทั้งนี้ ต้องมีผลการยืนยันตัวตนที่แสดงสถานะว่า “ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC)” ภายในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เพื่อให้สามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป

โดยจะได้รับสิทธิย้อนหลังในส่วนของวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) ของเดือนเมษายน 2566 จำนวน 300 บาท  

สำหรับการยืนยันตัวตน ผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต

อย่างไรก็ดี ผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติรอบใหม่ที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนภายในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารทั้งสามแห่งข้างต้นตามวันเวลาที่หน่วยงานกำหนด แต่จะสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด