นายพชร อนันตศิลป์ ประธานคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในปี 2566-2570 ธอส.ได้เดินหน้าสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน the best housing & Sustainable bank จะให้น้ำหนักไปยังการปล่อยสินเชื่อเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ส่วนการระดมเงินฝากก็จะเป็นในทิศทางเดียวกัน และในปีนี้ มีแผนระดมทุนผ่านพันธบัตรดังกล่าว 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ปลูกสร้างหรือซื้อบ้านประหยัดพลังงานและรักษ์สิ่งแวดล้อม
“ในส่วนการปล่อยสินเชื่อที่จะสอดคล้องกับทิศทางดังกล่าว เราจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เช่น สินเชื่อโซล่าเซลล์ สินเชื่อเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เป็นต้น ซึ่งเราจะจูงใจด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น”
โดยในปี 2566 ธอส.มีสินเชื่อเพื่อรองรับความยั่งยืนหรือเพื่อสิ่งแวดล้อมอยู่ 2 โครงการ คือ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธนาคารเริ่มทำการระดมเงินทุนแก่นักลงทุน โดยออก Sustainability bond ตราสารหนี้เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน เพื่อระดมทุนเพื่อนำไปพัฒนาและส่งเสริมความยั่งยืน โดยมีทั้งองค์ประกอบทั้ง Green bond และ Social bond ซึ่ง Green bond หรือตราสารหนี้สีเขียว
โดยจะระดมทุนเพื่อใช้ในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น โครงการพลังงานทางเลือก การบำบัดน้ำเสีย การคมนาคมสะอาด ส่วน Social bond หรือ ตราสารหนี้เพื่อสังคม ระดมทุนเพื่อนำไปพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เช่น การให้บริการสาธารณสุข ส่งเสริมการศึกษา จัดหาอาชีพ การสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น
“เราได้ให้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มาเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิคในการระดมเงินทุนและปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนดังกล่าว เพราะการระดมทุนในลักษณะดังกล่าวนั้น จะต้องมีการรายงานผลของการนำเงินที่ระดมไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องต่อนักลงทุน รวมถึงการรายงานผลการดำเนินงานต่างๆ ให้ทางสำนักงานคณะกรรการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รับทราบด้วย”