ประธานเฟดส่งสัญญาณชัด ขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปี 66

23 มิ.ย. 2566 | 11:45 น.
อัพเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2566 | 11:51 น.

ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำอีกครั้งและเป็นครั้งที่สองว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งน่าจะเป็นอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ และทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในกรอบ 5.50-5.75%

 

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายการเงินของเฟด โดยเขาได้กล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ (21 มิ.ย.) ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสฯ (22 มิ.ย.) เขากล่าวว่า เฟดจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้การดำเนินการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการยนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เมื่อต้นเดือนมิ.ย.นี้ เฟดตัดสินใจตรึงหรือคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 5.00-5.25% แต่ครั้งถัดไปในการประชุมที่เหลือของปีนี้ เฟดมองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยอาจปรับขึ้นอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปี หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่คาดการณ์ไว้

นายพาวเวลล์กล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คิดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ณ ช่วงปลายปีอยู่ในกรอบ 5.50-5.75%

"ที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วมาก โดยบางครั้งเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม 1 ครั้ง และขณะนี้เราได้เข้าใกล้จุดหมายปลายทางแล้ว เราจึงดำเนินการอย่างระมัดระวัง โดยได้คงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย."ประธานเฟดกล่าว

ในการแถลงต่อสภาฯเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายพาวเวลล์ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ

ก่อนหน้านี้ เขาเคยอธิบายการคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดว่า การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเพียงการพักการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราว มากกว่าที่จะบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

ส่วนการแถลงมุมมองเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธที่ 21 มิ.ย.(ตามเวลาไทย) เฟดย้ำว่า ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงมาสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางปัจจุบัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า การตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ย จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับในการประชุมแต่ละนัด มากกว่าที่จะมีการตั้งธงกำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้า

เกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ได้ชะลอตัวลง แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของเฟด นายพาวเวลล์กล่าวว่า ในการฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงนั้นจำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับแนวโน้ม ส่วนตลาดแรงงานยังคงตึงตัว แม้มีสัญญาณบ่งชี้ภาวะที่ผ่อนคลายลง โดยประชาชนในวัย 25-54 ปีได้เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น ในขณะที่ค่าจ้างชะลอตัวลง

จากการแสดงจุดยืนของเฟดต่อสภาคองเกรสนั้น ในวันแรกนักลงทุนให้น้ำหนัก 74.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค.

นอกเหนือจากถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ ประธานเฟด แล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐด้วย เช่นการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board

จากนั้น วันศุกร์ (23 มิ.ย.) เอสแอนด์พี โกลบอล จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นในเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ (ตามเวลาท้องถิ่น)