นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้สั่งการให้ธนาคารออมสินและแบงก์รัฐทั้งหมดเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยมาตรการดังกล่าวจะรวมถึงมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนและการลดปัญหาหนี้นอกระบบที่จะเข้าไปช่วยเหลือทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นการสนับสนุนให้เม็ดเงินหมุนเวียนลงสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยออมสินก็มีการเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งการช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจ และการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย”
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้สั่งการให้สถาบันการเงินดูแลแก้ไขหนี้เรื้อรังนั้น ในส่วนของออมสินมีส่วนน้อย และปัจจุบันออมสินมีการดูแลลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เป็นส่วนที่น่ากังวล โดยในปี 2564-2565 เป็นปีที่ออมสินดูแลลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เป็นหลัก จากปี 2562 มีลูกหนี้ 1.2 ล้านคน ปัจจุบันเหลือลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้าง 3.5 แสนราย
“เรามีการดูแลลูกหนี้ด้วยการลดเงินต้นให้ และให้จ่ายดอกเบี้ยตามความสามารถ เพื่อให้ลูกหนี้ไปต่อไหว โดยไม่มีการพักหนี้ ฉะนั้น จึงทำให้ลูกหนี้ออมสินกลับมาแข็งแรง เราคาดว่าในปี 67 ลูกหนี้กลุ่มดังกล่าวจะลดลงเหลือ 2 แสนราย และสถานการณ์ NPL ของธนาคารในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 นี้ ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ ที่ 2.63% และมีเป้าหมายควบคุมไม่ให้เกิน 2.6%”
ขณะเดียวกัน ธนาคารก็มีสถานะแข็งแกร่ง โดยมีการตั้งสำรองทั่วไปจากในอดีตที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท สามารถรองรับหนีเสียได้กว่า 90,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ออมสินยังมีการตั้งสำรองรวมกว่า 1.06 แสนล้านบาท คาดว่าทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท ส่วนผลกำไร 6 เดือนแรกของปี 66 อยู่ที่ 1.73 หมื่นล้านบาท