นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดตัวสินเชื่อ จีเอสบี อีวี ซัพพลาย เชน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (อีวี) และธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอีวี เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษ สามารถนำไปใช้ลงทุน หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ปรับตัวก้าวสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 5,000-10,000 ล้านบาท
สำหรับ สินเชื่อ จีเอสบี อีวี ซัพพลาย เชน เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเก็จ สินเชื่อกรีน โลน ซึ่งเป็นสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเศรษฐกิจสีเขียว วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.745 %ต่อปี ระยะเวลากู้ 10 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 2 ปี
และสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการวงเงินมากกว่า 50 ล้านบาท สามารถใช้สินเชื่อ จีเอสบี ฟอร์ บีซีจี อีโคโนมี ซึ่งไม่จำกัดวงเงินกู้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และซัพพลาย เชน ที่เกี่ยวข้องได้แก่ ผู้ผลิต ผู้ประกอบยานยนต์ไฟฟ้า รับจ้างผลิต ผู้ผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบยานยนต์ไฟฟ้า ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อหมุนเวียนทำธุรกิจ หรือลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ลงทุนใหม่ และรีไฟแนนซ์ได้”
นายวิทัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาออมสินได้ออกสินเชื่อเพื่อรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคตามกระแสอนุรักษ์พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนแหล่งเงินไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาทอาทิ จีเอสบี กรีน โฮม โลน สำหรับผู้บริโภครายย่อยที่ต้องการซื้อบ้านประหยัดพลังงาน สินเชื่อ จีเอสบี โก กรีนสำหรับผู้ที่ต้องการใช้พลังงานทดแทนเพื่อลดภาระค่าไฟ หรือติดตั้งแผงโซล่าร์ หรือซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และสินเชื่อจีเอสบี ฟอร์ บีซีจี อีโคโนมี เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทำธุรกิจตามโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี ตลอดจนสินเชื่อจีเอสบี กรีน บิส สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
“ธนาคารออมสิน ให้ความสำคัญในการสนับสนุนยุทธศาสตร์การใช้โมเดลเศรษฐกิจ บีซีจีเพื่อขับเคลื่อนพัฒนาประเทศสู่เป้าหมายความยั่งยืน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ภาครัฐให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และเคลื่อนที่สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ได้ตามแผนและนโยบายของประเทศ”
ด้าน นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้แก่สมาชิกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้า โดยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้เปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 30% จากการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศภายในปี 73 และตั้งเป้าในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้