คาดเฟดปิดฉากขึ้นดอกเบี้ยปีนี้แล้ว หลังข้อมูลตลาดแรงงานชี้ภาวะซบเซา

30 ส.ค. 2566 | 23:59 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ส.ค. 2566 | 00:06 น.

นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะ "คงอัตราดอกเบี้ย" ในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่ซบเซา

 

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.5% ที่ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะ คงอัตราดอกเบี้ย ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนกันยายนนี้ และให้น้ำหนักเพียง 11.5% ที่เฟดจะ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนัก 52.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน และให้น้ำหนักเพียง 43.3% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

ส่วนในเดือนธันวาคม นักลงทุนให้น้ำหนัก 51.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% และให้น้ำหนักเพียง 40.0% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีกำหนดการประชุมอีก 3 ครั้งในปีนี้ คือ

  • วันที่ 19- 20 กันยายน
  • วันที่ 31 ตุลาคม -1 พฤศจิกายน
  • และ วันที่ 12-13 ธันวาคม

การให้น้ำหนักของนักลงทุนที่ว่า เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งของปีนี้ มีพื้นฐานมาจากข้อมูลตลาดแรงงานที่เปิดเผยโดยสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ ที่ชี้ว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 338,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.827 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.465 ล้านตำแหน่ง

ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ยังพบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และต่ำกว่าระดับ 9 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564

ตัวเลขการจ้างงานลดลงสู่ระดับ 5.773 ล้านตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขการปลดออกจากงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.555 ล้านตำแหน่ง ส่วนตัวเลขการลาออกจากงานโดยสมัครใจลดลงสู่ระดับ 3.549 ล้านราย

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด

ก่อนหน้านี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะประเมินปัจจัยความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน

ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(25 ส.ค.) นายพาวเวลล์กล่าวว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่ในอัตราสูงเกินไป และเฟดก็เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยการประเมินข้อมูลที่เฟดได้รับ รวมทั้งแนวโน้มและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ "การดำเนินการน้อยเกินไปจะทำให้เงินเฟ้อที่อยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดฝังตัวลึก และจะยิ่งทำให้เฟดต้องใช้นโยบายการเงินเพื่อขจัดเงินเฟ้อออกจากเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน แต่การดำเนินการที่มากเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจเกิดผลกระทบโดยไม่จำเป็น" นายพาวเวลล์กล่าว