ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 200 จุดรับถ้อยแถลงประธานเฟด

26 ส.ค. 2566 | 00:44 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2566 | 00:44 น.

ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 200 จุดรับถ้อยแถลงประธานเฟด ที่ระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและสกัดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ พร้อมรับประกันจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,346.90 จุด เพิ่มขึ้น 247.48 จุด หรือ +0.73% 

ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,405.71 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด หรือ +0.67% 

ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,590.65 จุด เพิ่มขึ้น 126.67 จุด หรือ +0.94%

สำหรับในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ติดลบ 0.4% ด้านดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.8% และดัชนี Nasdaq บวก 2.3% โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลงรายสัปดาห์ต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ฟื้นตัวหลังปิดลบ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

ในการแสดงสุนทรพจน์ในการประชุมนโยบายเศรษฐกิจที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง นายพาวเวลระบุว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยการประเมินข้อมูลที่เฟดได้รับ รวมทั้งแนวโน้มและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
 
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดกำลังพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด โดยระบุแต่เพียงว่า ในการประชุมที่จะมาถึง เฟดจะตัดสินใจอย่างระมัดระวังว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่ หรือจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ขณะที่รอข้อมูลเศรษฐกิจต่อไป

นายพาวเวล บอกอีกว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และเฟดเตรียมการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
          
ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มต้นการซื้อขายอย่างแข็งแกร่ง ก่อนปรับตัวผันผวนขึ้นลงเกือบตลอดทั้งวัน โดยหุ้นทุกกลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย, กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพลังงาน ปรับตัวขึ้นอย่างมาก
          
อย่างไรก็ตาม หลังการแสดงความเห็นของนายพาวเวลในวันศุกร์ เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group บ่งชี้ถึงการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย. ขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังคงคาดว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

หุ้นโฮสเทรส แบรนด์ส ซึ่งผลิตขนมขบเคี้ยวทวิงกี้ส์ พุ่งขึ้น 21.7% หลังรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทกำลังสำรวจการขายกิจการ

หุ้นแก๊ป พุ่ง 7.2%  หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 สูงกว่าคาด ขณะที่หุ้นนอร์ดสตรอม ร่วง 7.7% หลังตรึงคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการ

หุ้นเวิร์กเดย์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ระบบ พุ่งขึ้น 5.4% หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีกว่าคาด แต่หุ้นมาร์เวล เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิป ร่วงลง 6.6% หลังเปิดเผยรายได้ไตรมาส 2 ลดลง
 

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่เปิดเผยในวันศุกร์ได้แก่ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 69.5 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 71.2 จากระดับ 71.6 ในเดือนก.ค.
          
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า จากระดับ 3.4% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว และสำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3.0% ไม่เปลี่ยนแปลงจากการสำรวจในเดือนที่แล้ว