ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.6% ที่ เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ที่ระดับ 5.25-5.50% ใน การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.2566
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 79.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งต่อไป คือในวันที่ 12-13 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของ FOMC ในปีนี้ หลังจากให้น้ำหนักเพียง 57.7% เมื่อเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ ในการกล่าวถ้อยแถลงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา นายพาวเวลล์ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และย้ำว่าตลาดแรงงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องชะลอตัวลงเพื่อให้เฟดบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ
"เงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับเงินเฟ้อในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับการสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายของเรา"
"หนทางข้างหน้าอาจจะไม่ราบรื่น และต้องใช้เวลานาน ผมและเจ้าหน้าเฟดเห็นพ้องกันต่อพันธกรณีในการควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลงอย่างยั่งยืนสู่ระดับ 2% ซึ่งการที่เฟดจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องมีการขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้ม และตลาดแรงงานจะต้องชะลอตัวลง" นายพาวเวลล์กล่าวในการประชุมที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) เมื่อเร็วๆนี้
ไทม์ไลน์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 11 ครั้ง ตั้งแต่ มี.ค.2565
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2565
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566
สำหรับกำหนดการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ประจำปี 2566 ในครั้งต่อไป เหลืออีกเพียงสองครั้งก่อนสิ้นปี คือ