การประกาศ คงอัตราดอกเบี้ย ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% นั้น เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
นักลงทุนกำลังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด หลังการประชุมนโยบายการเงินครั้งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พาวเวลล์ยอมรับว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงในระยะยาวจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงได้ แต่ถึงกระนั้น เฟดยังคงไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้สูงจนถึงระดับที่ว่านั้นแล้ว
รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐเผยแพร่เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ชี้ว่า มีการประกาศจ้างงาน 9.6 ล้านตำแหน่งเมื่อเดือนต.ค. ขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือ 3.7% ในเดือนก.ย. ซึ่งยังสูงกว่าระดับที่เฟดตั้งเป้าไว้คือ 2%
พาวเวลล์และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางคนอื่น ๆ กล่าวว่า แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะดูดีขึ้นในขณะนี้ แต่จะยังคงจับตามองสัญญาณต่าง ๆ ว่ามีโอกาสที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าเฟดจะยังคงไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้
ไทม์ไลน์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 11 ครั้ง ตั้งแต่ มี.ค.2565
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2565
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566
สำหรับกำหนดการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ประจำปี 2566 ในครั้งต่อไป เหลืออีกเพียง 1 ครั้งก่อนสิ้นปี คือ วันที่ 12-13 ธ.ค.2566