ธนาคารยูโอบี รายงายว่า ธนาคารได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ฉางอาน อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชัน (CHANGAN International Corporation) บริษัทย่อยภายใต้ฉางอาน ออโตโมบิล (CHANGAN Automobile) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศจีน ร่วมสนับสนุนการลงทุนและพัฒนาธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในของฉางอานในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารยูโอบีให้การสนับสนุนด้านการเงินและบริการด้านการค้าระหว่างประเทศแก่ฉางอาน ซึ่งเลือกประเทศไทยเป็นสำนักงานภูมิภาคของบริษัทสำหรับขยายธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมไปถึงการที่ธนาคารยูโอบีได้เข้ามาเป็นสถาบันการเงินหลักเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจนอกประเทศจีนของฉางอาน
โดยธนาคารจะนำเสนอบริการทางเงินแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของฉางอานในการพัฒนำนวัตกรรมสีเขียว ฉางอานจะได้รับบริการด้านการเงินที่หลากหลายจากยูโอบี เช่น Global Credit Services สำหรับเป็นแหล่งเงินทุนในการขยายกิจการและดำเนินธุรกิจ บริการธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ บริการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย และการเข้าถึงสินเชื่อสีเขียวภายใต้กรอบแนวคิดการเข้าถึงเงินทุนที่ยั่งยืนของธนาคารเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต
นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารขอแสดงความยินดีกับ ฉางอานที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากการเข้ามาบุกตลาดรถยนต์พลังงานฟ้าในไทยอย่างเป็นทางการ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของบริษัทที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคนี้ ยูโอบีพร้อมจะสนับสนุนฉางอาน ในการการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ธนาคารพร้อมร่วมมือกับฉางอานเพื่อผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มากขึ้นในประเทศไทย และขับเคลื่อนภูมิภาคไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยยานยนต์สีเขียว
นายเฉิน เจี้ยนเฟิง รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการเงิน บริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล กล่าวว่า ธนาคาร ยูโอบีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยสนับสนุนให้บริษัทเข้ามาทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ ฉางอานได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่น Deepal L07 และ รุ่น Deepal S07 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 นอกจากนี้บริษัทยังได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทีทันสมัยเฟสแรกที่จังหวัดระยอง
“โรงงานผลิตรถยนต์ดังกล่าวจะรองรับการผลิตรถยนต์ในขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น งานพ่นสี ประกอบตัวรถยนต์ ประกอบเครื่องยนต์ และประกอบแบตเตอรี่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอื่นๆ ตั้งเป้าครอบคลุมตลาดอาเซียนทั้งหมด รวมถึงตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาทั่วโลกโดยในช่วงระยะแรก ภายในต้นปี 2568 คาดว่าโรงงานแห่งนี้จะมีกำลังในการผลิตรถยนต์ที่ 100,000 คันต่อปี”