ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจพ.ย.ดีขึ้น แต่แนวโน้ม 3 เดือนลดลง

02 ธ.ค. 2567 | 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ธ.ค. 2567 | 09:18 น.

ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น จากทั้งภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต ขณะที่ความเชื่อมั่น ในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงจากภาคที่มิใช่การผลิตเป็นสำคัญ

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ย.2567 โดยรวมปรับเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 49.3 จากการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มผลิตพลาสติกและยางพารา ที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและการผลิตปรับเพิ่มขึ้นมาก

ตามอุปสงค์บรรจุภัณฑ์อาหารที่ขยายตัวดี และการสะสมสต็อกยางแท่งและยางแผ่นของคู่ค้าในจีน ส่วนหนึ่งจากแนวโน้มราคายางพาราที่ลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตอาหารที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการและการผลิตปรับเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการส่งออกทูน่ากระป๋อง และผลิตภัณฑ์ไก่ที่เติบโตตามอุปสงค์คู่ค้า

ส่วนความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตปรับเพิ่มขึ้นมากเฉพาะกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร ที่ความเชื่อมั่นดีขึ้นในทุกด้านจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul)โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรปและสหรัฐฯ

ขณะที่แนวโน้มในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.3 จากความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ การผลิต และต้นทุนเป็นหลัก โดยความเชื่อมั่นในภาคการผลิตทรงตัว ความเชื่อมั่นในเกือบทุกหมวดธุรกิจดีขึ้น ยกเว้นในกลุ่มผลิตยานยนต์ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงต่อเนื่องในเกือบทุกองค์ประกอบจากยอดขายในประเทศและการส่งออกที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว

 

ส่วนความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตปรับลดลงในเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มค้าปลีก ส่วนหนึ่งจากปัจจัยเชิงฤดูกาลที่คำสั่งซื้อมีแนวโน้มลดลงหลังจากที่เร่งไปมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับกำลังซื้อของครัวเรือนฐานรากที่ฟื้นตัวช้ากดดันยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคให้ชะลอลง

เช่นเดียวกับกลุ่มขนส่งที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงนำโดยด้านคำสั่งซื้อและปริมาณการให้บริการจากทั้งกลุ่มขนส่งสินค้าและขนส่งผู้โดยสาร 

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆ นั้น ความเชื่อมั่นด้านสภาพคล่องปรับดีขึ้นมาก โดยเฉพาะธุรกิจในภาคที่มิใช่การผลิต เช่น กลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร กลุ่มขนส่ง สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว ขณะที่ความเชื่อมั่นการจ้างงานมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ต้นปี 67 โดยเฉพาะธุรกิจในภาคการผลิต

ต้นทุนการผลิตสูงเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจแต่มีทิศทางปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ความกังวลด้านความต้องการจากตลาดในประเทศต่ำปรับเพิ่มขึ้นมากจากช่วงต้นปี 2567 สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์อีก 12 เดือนข้างหน้าทรงตัวอยู่ที่ 2.5%