ธอส.ช่วยลูกค้าประภัยน้ำท่วมภาคเหนือ 5 พันราย มูลค่ากว่า 2.2 พันล้านบาท

04 ธ.ค. 2567 | 05:43 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2567 | 05:51 น.

ธอส.ช่วยลูกค้าประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือรวมกว่า 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินรวม 2,200 ล้านบาท ยันพร้อมเดินหน้าตามนโยบายรัฐ จัด 2 โครงการดูแลฟื้นฟู

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้ดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนชาวภาคเหนือที่ประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งล่าสุด ธอส. ได้ให้ความช่วยเหลือรวมจำนวนกว่า 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือรวม 2,200 ล้านบาท

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าได้รับสินไหมทดแทน ภายใต้มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567 แล้วกว่า 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินไหมทดแทนที่ลูกค้าได้รับรวมกว่า 157 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • สินไหมให้แก่ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 2,300 ราย วงเงินสินไหม 62 ล้านบาท
  • สินไหมให้แก่ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 1,600 ราย วงเงินสินไหม 59 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธอส. ยังคงเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการฟื้นฟูและช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ธอส.ช่วยลูกค้าประภัยน้ำท่วมภาคเหนือ 5 พันราย มูลค่ากว่า 2.2 พันล้านบาท

โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย

จำนวน 2 มาตรการ ประกอบด้วย

1. สินเชื่อสำหรับลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าใหม่ : พื้นที่จังหวัดเชียงราย กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือกู้เพื่อปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม

  • อัตราดอกเบี้ย เดือนที่ 1 – 6 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด
  • อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 7 – 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (3.24% ต่อปี)
  • ปีที่ 4 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี (4.14% ต่อปี)
  • ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี

ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.545% ต่อปี)

โดยได้รับวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,100 บาท พิเศษฟรีค่าธรรมเนียมการประเมินราคาหลักประกัน (1,900 – 2,800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง

2.  สำหรับลูกค้าปัจจุบัน : ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี

  • รับอัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1 – 3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด
  • เดือนที่ 4 – 12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี

พร้อมลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน โดยเมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไป โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ

มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567

จำนวน 5 มาตรการ ประกอบด้วย

มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน

  • คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด
  • จากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี
  • ให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน
  • เมื่อครบระยะเวลา ประนอมหนี้ ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี

  • คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก
  • ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด)
  • เดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี
  • ให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท
  • เมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 3  : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระ โดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 4  : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 5  : พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย คุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกราย อย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ

โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาท ต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)

สำหรับลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการที่ 1-4 สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 และมาตรการที่ 5 ติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ