ตลท.เผยผลสอบหุ้น MORE พบบัญชีต้องสงสัยหลัก 10 บัญชี ยังไม่ชัดปลด SP ศุกร์นี้

16 พ.ย. 2565 | 07:57 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2565 | 06:10 น.

ตลท.เปิดรับข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องกรณีหุ้น MORE ให้โอกาสเปลี่ยนจากจำเลยเป็นพยาน เผยผลสอบหุ้น MORE มีบัญชีแช่แข็งหลักสิบแอคเค้านท์ ยังไม่ชัดเจน 18 พ.ย. ปลด SP หรือไม่ แต่ยันพร้อมส่งต่อข้อมูลฟ้องร้องให้ตำรวจดำเนินต่อ

 

จากธุรกรรมซื้อขายผิดปกติของหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ในช่วงราคาเปิด (ATO) ของวันที่ 10 พ.ย. 2565 จำนวนกว่า 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท ทำให้ราคาหุ้นขึ้นแตะระดับ 2.90 บาทต่อหุ้น เทียบเท่า 22% ของทุนจดทะเบียนบริษัท ก่อนที่จะทิ้งดิ่งลงมาจนร่วงติดเพดานการซื้อขายด้านล่าง (ฟลอร์) ถึง 2 วันทำการ และทราบทีหลังว่าวอลุ่มปริศนเป็นของ "กลุ่มนายอภิมุข บำรุงวงศ์" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ของ MORE ซึ่งมีความสนิทสนมกับนาย อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของบริษัท ฯ  กระทั่ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกมาตรการ สั่งขึ้นเครื่องหมาย SP หยุดพักการซื้อขาย หุ้น MORE ตั้งแต่วันที่ 15 - 18 พฤศจิกายน 2565 เพื่อรอตรวจสอบหาข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้น

ล่าสุดวันนี้ ( 16 พ.ย.65 ) ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) โดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ได้ร่วมแถลงถึงความคืบหน้า การดำเนินการกรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE)" ว่า ตลท. ได้ดำเนินการร่วมกันของบริษัทสมาชิก สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.65 เป็นต้นมา ได้มีการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทสมาชิกที่เกี่ยวข้อง ในการรวบรวมข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 -11 พ.ย.65 ทั้งหมด เพื่อที่จะร่วมกันทำการตรวจสอบธุรกรรมที่ต้องสงสัย

 

แช่แข็งบัญชีหลักสิบแอคเค้านท์ ปัดเผยมูลค่า

 

จากการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแล ได้พบธุรกรรมส่วนหนึ่งที่ต้องสงสัย ส่วนธุรกรรมที่ได้ตรวจสอบแล้ว หากไม่พบความผิดปกติ บริษัทสมาชิกก็ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่ลูกค้าไปแล้ว ขณะที่ธุรกรรมที่พบความผิดปกติ บริษัทสมาชิกก็จำเป็นที่จะต้องทำการตรวจสอบลูกค้าอย่างเข้มข้น และได้มีการระงับการทำธุรกรรมในบัญชีดังกล่าวของลูกค้าระหว่างที่ทำการตรวจสอบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของบริษัทสมาชิกตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

"รายการที่ต้องสงสัย  อาศัยประกาศบังคับ "ปปง." ได้ Hold เงินซึ่งมีประมาณ"หลักสิบกว่าแอคเคานท์" ส่วนมูลค่าเป็นเท่าไรบอกไม่ได้ แต่จำนวนบัญชีถือว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับบัญชีที่ดำเนินการปกติกว่า 3,000 แอคเค้านท์ ที่มีการโอนเข้าบัญชีลูกค้าแล้ว " นายพิเชษฐ กล่าว

 

นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการประสานกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้เข้ามาทำการสอบสวน ก็ได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยในวันนี้ ( 16 พ.ย.) บริษัทสมาชิกหลายแห่งก็ได้ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) แล้ว        

 

ให้โอกาสเปลี่ยนจำเลยเป็น"พยาน" 
        

 

ตลท.ยังขอให้ผู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่ผิดปกติ สามารถมาติดต่อให้ข้อมูลได้ผ่านทาง SET Contact Center ที่ 0 2009 9999 เพื่อที่จะทำการรวบรวม และประสานนำส่งให้แก่พนักงานสอบสวนต่อไป

 

"ขณะนี้ตลท.รวบรวมได้ข้อมูลเกิน 50% พบหลักฐานการกระทำที่ไม่ปกติ เราอยากให้โอกาส ใครมีข้อมูลที่ถูกต้อง อยากเปลี่ยนจาก" ผู้ต้องสงสัยมาเป็นพยานได้"  รีบมาให้ข้อมูลกับตลท.ภายในวันศุกร์นี้ ( 18 พ.ย. ) "กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าว

 

ส่วนคำถามที่ว่าหลังครบกำหนดการสั่งพักการซื้อขายหุ้น MORE วันที่ 18 พ.ย. 2565 จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายภากร กล่าวเพียงว่า วันที่ 18 พ.ย. เรามั่นใจว่าจะมีข้อมูลฟ้องร้อง เพื่อจะส่งต่อให้ตำรวจดำเนินต่อได้ และหลังจากนี้ เราจะเปิดรับความคิดเห็น (เฮียริ่ง ) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานกำกับ เพื่อวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดกรณีในลักษณะเดียวซ้ำขึ้นอีก  

 

เปิดความผิดปกติซื้อขายหุ้น MORE 

 

ทั้งนี้ความผิดปกติของการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE  จากข้อมูลดำเนินการของ ตลท.พบว่า  ในวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา สภาพการซื้อขายผิดปกติ โดยมีราคาปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด +4.3% จากราคาปิดในวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งวันที่สูงมากถึง 7,143 ล้านบาท (เฉลี่ย 30 วันก่อนหน้าอยู่ที่เพียง 360 ล้านบาท) ทั้งนี้ในช่วงที่เปิดตลาดมีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณเกือบ 4,300 ล้านบาท 

 

ลักษณะของการส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติ คือ ฝั่งซื้อ พบว่า เป็นการส่งคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อเพียง 1 ราย ผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่งที่ราคา 2.90 บาท ฝั่งขาย พบว่า มีการส่งคำสั่งขายเป็นจำนวนมากจากผู้ขายหลายรายที่ระดับราคาใกล้เคียงกับราคาเสนอซื้อ โดยมีจำนวนที่สั่งขายตั้งแต่ประมาณ 70 ล้านหุ้น/ราย ไปจนถึงประมาณ 600 ล้านหุ้น/ราย

 

ทันทีเมื่อเปิดตลาด ได้เกิดการจับคู่ซื้อขายกับผู้ขายหลายรายผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่ง หลังจากนั้นภายในไม่ถึง 20 นาทีหลังเปิดตลาด ราคาได้ทยอยปรับตัวลงจนไปต่ำสุดที่ Floor ที่ราคา 1.95 บาท และปิดตลาดที่ราคาดังกล่าว ฝ่ายกำกับการซื้อขายของ ตลท. ได้แจ้งเตือนบริษัทสมาชิกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

 

ผลกระทบที่มีต่อเนื่องมาถึงการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในวันที่ 11 พ.ย. หลังเปิดการซื้อขาย ราคาหลักทรัพย์ MORE เปิดตลาดที่ราคา Floor ในทันทีที่ราคา 1.37 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง โดยลดเหลือเพียง 134 ล้านบาท จากกว่า 7,000 ล้านบาทในวันก่อนหน้า