รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยตัวเลขการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (14 -18 พ.ย.65) มีมูลค่ารวม 303,670.20 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 60,734.04 ล้านบาท ลดลง 10.21% จากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ( SET Index ) ปิดการซื้อขายปลายสัปดาห์ที่ระดับ 1,617.38 จุด ลดลง 1.22% จากระดับปิดของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1,637.29 จุด
- นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 6,734.89 ล้านบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะซื้อสุทธิ 176,266.17 ล้านบาท )
- นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 3,172.17 ล้านบาท (มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 153,021.31 ล้านบาท )
- บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 3,094.63 ล้านบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 2,224.23 ล้านบาท )
- นักลงทุนรายย่อยในประเทศ ซื้อสุทธิ 6,812.42 ล้านบาท (มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 21,020.63 ล้านบาท )
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเชียพลัส (ASP) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า แรงกดดันที่ทำให้ภาพรวมฟันด์โฟลว์ชะลอไหลเข้าหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงมาต่อเนื่อง ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนหุ้น Commodity กว่า 1 ใน 3 ของ Market Cap.รวม ขณะเดียวกันยังมีกระแสหุ้น MORE ที่กดดันหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็กอยู่ในช่วงนี้
ทั้งนี้ การซื้อของบัญชี “เอ็นวีดีอาร์” (NVDR) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนชาวต่างประเทศในการซื้อหุ้นไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 18 พ.ย.65 พบว่า
10 อันดับหุ้นไทย ที่นักลงทุนต่างชาติขายมูลค่าสูงสุด ได้แก่
- CENTEL มูลค่าขายสุทธิ 102.17 ล้านบาท
- DITTO มูลค่าขายสุทธิ 94.16 ล้านบาท
- KBANK มูลค่าขายสุทธิ 60.57 ล้านบาท
- PTTGC มูลค่าขายสุทธิ 58.70 ล้านบาท
- CHG มูลค่าขายสุทธิ 54.18 ล้านบาท
- SNNP มูลค่าขายสุทธิ 37.06 ล้านบาท
- KKP มูลค่าขายสุทธิ 36.55 ล้านบาท
- SCC มูลค่าขายสุทธิ 35.45 ล้านบาท
- DOHOME มูลค่าขายสุทธิ 33.76 ล้านบาท
- CPF มูลค่าขายสุทธิ 32.42 ล้านบาท
10 อันดับหุ้นไทย ที่นักลงทุนต่างชาติซื้อมูลค่าสูงสุด ได้แก่
- PTTEP มูลค่าซื้อสุทธิ 268.43 ล้านบาท
- DELTA มูลค่าซื้อสุทธิ 263.78 ล้านบาท
- AOT มูลค่าซื้อสุทธิ 228.74 ล้านบาท
- BH มูลค่าซื้อสุทธิ 173.45 ล้านบาท
- EA มูลค่าซื้อสุทธิ 133.74 ล้านบาท
- MTC มูลค่าซื้อสุทธิ 130.50 ล้านบาท
- MAKRO มูลค่าซื้อสุทธิ 89.83 ล้านบาท
- CRC มูลค่าซื้อสุทธิ 83.06 ล้านบาท
- SPALI มูลค่าซื้อสุทธิ 81.88 ล้านบาท
- TISCO มูลค่าซื้อสุทธิ 65.90 ล้านบาท