ทองคำนิวยอร์กปิดบวก 8.4 ดอลล์ ขานรับแนวโน้มเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 พ.ย.) โดยยังคงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 1,754 ดอลลาร์/ออนซ์ และปิดตลาดทรงตัวในรอบสัปดาห์นี้หลังจากลดลง 0.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.3 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 21.43 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 987.8 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 54.40 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 1,821.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ปริมาณการซื้อขายในตลาดอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากตลาดปิดทำการครึ่งวันหลังวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.)
สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมเฟดที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ (23 พ.ย.) ซึ่งบ่งชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่สนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลงในอนาคต
ทั้งนี้ รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 1-2 พ.ย.ระบุว่า เฟดมองเห็นความคืบหน้าในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ และจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า
นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกัน 4 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ในจีน
ตลาดจะจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในวันที่ 30 พ.ย. รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 2 ธ.ค.