ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 350.76 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 33,596.34 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 57.58 จุด หรือ 1.44% ปิดที่ 3,941.26 จุด ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 225.05 จุด หรือ 2.00% ปิดที่ 11,014.89 จุด
นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Squawk Box" ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า วิกฤตเงินเฟ้อกำลังกัดกร่อนทุกสิ่งและอาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า พร้อมกับกล่าวว่า การที่เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดที่ 5% ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ
ทางด้านนายไบรอัน มอยนิฮาน ซีอีโอของแบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าว ในการประชุมด้านการเงินซึ่งจัดขึ้นโดยโกลด์แมน แซคส์เมื่อวานนี้ว่า เขาคาดเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงเล็กน้อยเป็นเวลานานถึง 3 ไตรมาสในปีหน้า ขณะที่นายเดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลง และขณะนี้ลูกค้าของธนาคารมีความกังวลในเรื่องนี้อย่างมาก
คำเตือนของบรรดาผู้บริหารธนาคารรายใหญ่เป็นไปในทางเดียวกับที่ผู้บริหารของบริษัทแบล็คร็อคและผู้บริหารของสถาบันการเงินรายอื่นๆได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า การที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยลงในปีหน้า
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ฉุดราคาหุ้นปรับตัวลงเกือบทุกกลุ่ม นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.74% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.63% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 1.74% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 3.14%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.03% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.51% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.54% หุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 3.03%
หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ทรุดตัวลง 6.79% หลังจากมีรายงานว่าหน่วยงานด้านกำกับดูแลของสหภาพยุโรป (EU) ได้สั่งให้เมตาห้ามกำหนดให้ผู้ใช้งานต้องยอมดูโฆษณาสินค้าเมื่อกำลังใช้งานบนแพลตฟอร์ม
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ท่ามกลางความกังวลที่ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจส่งผลให้ภาคธนาคารเผชิญปัญหาหนี้เสียและการชะลอตัวของยอดการปล่อยกู้ โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 2.56% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.37% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 1.45%
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.0% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค. 2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%