ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,220.80 จุด พุ่งขึ้น 345.09 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,849.28 จุด เพิ่มขึ้น 66.06 จุด หรือ +1.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,478.09 จุด เพิ่มขึ้น 264.80 จุด หรือ +2.59%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 41,000 ราย สู่ระดับ 1.710 ล้านราย
นายแลร์รี อดัม นักวิเคราะห์จากบริษัทเรย์มอนด์ เจมส์แสดงความเห็นว่า การปรับตัวขึ้นของตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอาจทำให้คณะกรรมการเฟดพึงพอใจ หลังจากที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันหลายครั้งเพื่อบรรเทาความร้อนแรงของตลาดแรงงานและฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย
ขณะที่เจสัน แบล็คเวลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเดอะ โคโลนี กรุ๊ปกล่าวว่า ตลาดขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ เพราะอาจเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง
ทั้งนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลง 0.22% แตะที่ 3.864% ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้น เนื่องจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีซึ่งเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลกรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐด้วยนั้น จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุนและเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสื่อสารซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.82% หุ้นแอปเปิ้ล ทะยานขึ้น 2.83% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.76% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 4.01% หุ้นเอทีแอนด์ที ดีดขึ้น 1.26% หุ้นที-โมบาย บวก 0.30% หุ้นเวอไรซอน คอมมูนิเคชันส์ เพิ่มขึ้น 1.16%
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 8.08% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาได้ส่งอีเมลถึงพนักงานในบริษัทว่าอย่าวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดหุ้น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าในระยะยาวนั้น เทสลาจะกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
หุ้นเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ดีดตัวขึ้น 3.70% หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้เนื่องจากพายุหิมะได้ส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก ขณะที่นักวิเคราะห์ของบริษัทซีเอฟอาร์เอยังคงน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเซาท์เวสต์แอร์ไลน์เอาไว้ที่ระดับ "Buy" โดยระบุว่าการที่ราคาหุ้นเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ร่วงลงไปกว่า 16% ในเดือนนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะช้อนซื้อ