แรงซื้อจากต่างชาติยังเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันจากข้อมูลตามแบบรายงาน 59-2 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ได้ทยอยสะสม
โดยต้นปี 2566 ผ่านมา 6 วันทำการ ( 3-10 ม.ค.66 ) ต่างชาติซื้อสุทธิทุกวัน มูลค่ารวมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท สูงสุดในกลุ่มTIP ( ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) และยังเป็นการซื้อสุทธิเกิน 4 พันล้านบาท มา 3 วันติดต่อกัน โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อสุทธิในกลุ่มหุ้น ธ.พ. ,รับเหมาฯ, วัสดุก่อสร้าง, ICT, อาหาร, มีเดีย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเห็นเม็ดเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท หนุนให้ค่าเงินบาท แข็งค่าเร็วกว่า 3% ตั้งแต่ต้นปี 66 ( YTD )
ฝ่ายวิจัยบล.เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) ระบุว่า ข้อมูลในแบบรายงาน 59-2 พบว่ามีหุ้นบางบริษัท ที่ผู้บริหารเข้ามาทยอยสะสมในช่วง 1 – 10 ม.ค. 66 โดยมีหุ้นที่ผู้บริหารซื้อสะสมเกิน 4 ล้านบาท ประกอบด้วย
บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มูลค่าซื้อสุทธิ 51,480,000 บาท ราคาเฉลี่ย 29.25 บาท ราคาหุ้นปิดตลาด (10 ม.ค.) 30.65 บาท เปลี่ยนแปลง 5.10% (จากราคาปิดตลาดวันที่ 1 ม.ค. 2566)
บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มูลค่าซื้อสุทธิ 15,360,000 บาท ราคาเฉลี่ย 5.12 บาท ราคาหุ้นปิดตลาด (10 ม.ค.) 5.25 บาท เปลี่ยนแปลง 2.50% (จากราคาปิดตลาดวันที่ 1 ม.ค. 2566)
บมจ. ซัสโก้ (SUSCO) มูลค่าซื้อสุทธิ 9,800,000 บาท ราคาเฉลี่ย 3.92 บาท ราคาหุ้นปิดตลาด (10 ม.ค.) ที่ 3.94 บาท เปลี่ยนแปลง 0.50% (จากราคาปิดตลาดวันที่ 1 ม.ค. 2566)
บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE ) มูลค่าซื้อสุทธิ 7,900,000 บาท ราคาเฉลี่ย 7.90 บาท ราคาหุ้นปิดตลาด (10 ม.ค.) 7.85 บาท เปลี่ยนแปลง -0.60% (จากราคาปิดตลาดวันที่ 1 ม.ค. 2566)
บมจ.แม็คกรุ๊ป ( MC ) มูลค่าซื้อสุทธิ 5,457,900 บาท ราคาเฉลี่ย 10.50 บาท ราคาหุ้นปิดตลาด (10 ม.ค.) 11.20 บาท เปลี่ยนแปลง 6.70% (จากราคาปิดตลาดวันที่ 1 ม.ค. 2566)
บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU ) มูลค่าซื้อสุทธิ 4,830,000 บาท ราคาเฉลี่ย 16.10 บาท ราคาหุ้นปิดตลาด (10 ม.ค.)ที่ 16.40 บาท เปลี่ยนแปลง 1.90% (จากราคาปิดตลาดวันที่ 1 ม.ค. 2566)
ทั้งนี้การเข้ามาสะสมหุ้นของผู้บริหาร อาจเป็นสัญญาณว่า ราคาหุ้นปัจจุบันยังน่าสะสม เมื่อเทียบกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในมุมมองของผู้บริหารก็เป็นได้ ซึ่งถือเป็น Sentiment ที่ดี และอาจหนุนราคาหุ้นให้ขยับขึ้นในระยะถัดไปได้เช่นกัน
ในรายชื่อหุ้นดังกล่าว ฝ่ายวิจัย ASPS ระบุว่า มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว BDMS กระแสนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาฉีดวัคซีน, TFG ปริมาณและราคาหมูไก้อาจสูงขึ้นรับตรษจีน และยังได้ Sentiment ไข้หวัดนกในญี่ปุ่น รวมถึงหุ้นที่ราคา Laggard มากหากวัดตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 ถึง 10 ม.ค. 66 อย่าง ONEE TU